บล. เออีซี (AECS) ระบุว่า ทิศทางตลาดไทยก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมแนะนำนักลงทุนจับตาปัจจัยทางการเมืองของรัฐบาลผสมชุดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดกรณีสัดส่วนใกล้เคียงกันระหว่างรัฐบาล และฝ้ายค้าน และการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 ของหุ้นกลุ่มธนคาร ซึ่งจะเป็น Leading Indicator ของ Real Sector
ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังคงผันผวนต่อเนื่อง เพราะยังรอความชัดเจนการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสหรัฐฯ-จีนในช่วงที่ผ่านมา โดยประธานาธิปดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าจะสามาถบรรลุข้อตกลงได้ในอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้า และยังมีเรื่องของการประชุม EU ในวันที่ 10 เม.ย. เพื่ออนุมัติการขยายเวลาการที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ออกไปจากวันที่ 12 เม.ย. เป็นวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อไม่ให้เกิด No-deal Brexit
ประกอบกับอยู่ในช่วงของการเริ่มประกาศผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/62 ของหุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ โดยตลาดคาดว่าดัชนี S&P500 จะมีกำไรสุทธิช่วงไตรมาส 1/62 ลดลง 4.2% เมื่อเทียบจากปีก่อน อีกทั้งยังคงให้เฝ้าจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะออกในวันที่ 10 เม.ย. เพื่อดูทิศทางนโยบายการเงินและทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอีกด้วย
ดังนั้นทาง AECS มองว่าเป็นโอกาส เมื่อดัชนีย่อ แนะนำเข้าซื้อหุ้นกลุ่มหุ้นกระแสเงินสดแข็งแกร่ง ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีความมั่นคงทางกระแสเงินสดและมีลักษณะคล้าย Fixed Income ใน 4 กลุ่ม อาทิ กลุ่มพลังงานทางเลือก แนะนำ BGRIM รองลงมากลุ่มท่องเที่ยว ได้รับอานิสงส์บวกจากการท่องเที่ยวในประเทศที่คึกคัก แนะนำ AOT กลุ่มนิคมและโลจิสติกส์ รับอานิสงส์ทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA, WHA นอกจากนี้มองกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แนะนำ BEM
สุดท้ายกลุ่มโรงพยาบาล มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH ,BCH ,BDMS