นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยความคืบหน้าของการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) มูลค่าโครงการ 55,400 ล้านบาท ว่า คณะกรรมการฯได้เปิดซองที่ 3 ซึ่งเป็นซองผลตอบแทนแล้ว และอยุ่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ ซึ่งเป็นเอกชนรายเดียวที่ยื่นข้อเสนอในโครงการนี้ และจะนัดเจรจาในรอบหน้าวันที่ 22 เม.ย.นี้ คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเรื่องผลตอบแทน
หลังจากนั้นจะเจรจาเงื่อนไขอื่นๆ และพิจารณาเปิดซอง 4 หรือข้อเสนอพิเศษ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน เม.ย.นี้ ขณะเดียวกันก็เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการร่างสัญญาในโครงการดังกล่าวเพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาตรวจร่างก่อน
"ถ้าทุกอย่างพิจารณาได้เสร็จก็จะนำเสนอเข้าบอร์ด กนอ. จากนั้นเสนอ สำนักงาน กพอ. เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) และเสนอให้กับ ครม. ซึ่งเป็นไปตามแผน ที่คาดเสร็จสิ้นภายในปลายเดือน พ.ค. แต่ก็จะพยายามเร่งเร็วขึ้น"ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับภาคเอกชนเข้าพัฒนาในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานได้ประมาณเดือน มิ.ย.62
สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ เป็นความร่วมมือระหว่าง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ปตท (PTT) โดยร่วมกันถือหุ้นในสัดส่วน 70% และ 30%ตามลำดับ
โดยการพัฒนาช่วงที่ 1 เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 47,900 ล้านบาท โดย กนอ.จะเข้าร่วมลงทุนไม่เกิน 12,900 ล้านบาท และภาคเอกชน 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขุดลอกและถมทะเล พื้นที่ 1,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่
นอกจากนั้น จะเป็นงานขุดลอกร่องน้ำ และแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือท่าเทียบเรือบริการ และท่าเรือก๊าซ รองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซได้ 10 ล้านตันต่อปี โดยเอกชนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าพัฒนาโครงการในช่วงที่ 1 จะได้รับสิทธิในการบริหารและพัฒนาพื้นที่ท่าเรือ (Superstructure) ประมาณ 200 ไร่ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารท่าเรือ และเพื่อรองรับการใช้บริการท่าเรือที่เพิ่มขึ้นในอนาคต