นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ในกรอบแคบก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยมองว่าจะมีนักลงทุนบางส่วนหยุดการซื้อขายในช่วงนี้ไปบ้างแล้ว ทำให้ภาพการซื้อขายอาจจะไม่เห็นความคึกคักมากนัก
อย่างไรก็ตามดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจจะถูกแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงมากว่า 1 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ทำให้อาจจะมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา แต่คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับของหุ้นกลุ่มโรงกลั่นเข้ามาช่วย หลังจากที่ค่าการกลั่นปรับเพิ่มขึ้นมาที่กว่า 5 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อีกทั้งหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ราคาปรับตัวลดลงมา และได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง อาจจะมีการซื้อเข้ามาในวันนี้ โดยเฉพาะ SCC
ส่วนปัจจัยเมื่อวานนี้หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งม.44 ขยายระยะเวลาชำระค่างวดใบอนุญาตคลื่น 900 MHz และมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล แม้ว่าตลาดจะรับรู้และตอบรับไปส่วนหนึ่งแล้วเมื่อวาน แต่ยังมองว่าเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มสื่อสารและทีวีดิจิทัลได้อยู่ ด้านตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเปิดตลาดเช้านี้การเคลื่อนไหวมีทั้งประเทศที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นและบางประเทศปรับตัวลดลง
พร้อมให้แนวต้าน 1,665 จุด แนวรับ 1,655 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,143.05 จุด ลดลง 14.11 จุด (-0.05%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,947.36 จุด ลดลง 16.88 จุด (-0.21%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,888.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด (+0.00%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 70.97 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 33.10 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.17 จุด,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.30 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 เม.ย.62) 1,659.09 จุด ลดลง 3.04 จุด (-0.18%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 78.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 เม.ย.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 เม.ย.62) ปิดที่ 63.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 เม.ย.62) ที่ 5.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.83 อ่อนค่าจากวานนี้หลังดอลล์แข็งเทียบทุกสกุลหลัก ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส
- กระทรวงพลังงานคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟสูงสุด (พีก) ปีนี้อยู่ที่ 35,889 เมกะวัตต์ โตขึ้นจากปีก่อน 4.6% หลังอุณหภูมิร้อนจัดทั่วไทยประเมินพีกจะเกิดขึ้นช่วงระหว่างปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม 2562 สนพ.วอนทุกภาคส่วนใช้มาตรการ 4 ป. ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน ลดพีก
- กทท.เลื่อนประกาศผู้ชนะการประมูล แหลมฉบังเฟส 3 เป็นเดือน พ.ค. อ้างพิจารณาเอกสารยังไม่จบ แจ้งพิจารณาอีกครั้งวันที่ 23 เม.ย.นี้ กนอ.ขีดเส้น 3 มิ.ย.ลงนามมาบตาพุดเฟส 3 ด้านบิ๊กตู่ใช้ ม.44 เร่งรถไฟฟ้าแบริ่ง-คูคต
- ม.44 ปลดล็อก"ค่ายมือถือ-ทีวีดิจิทัล" ยืดชำระหนี้คลื่น 900 MHz เป็น 10 ปี เงื่อนไขต้องเข้าประมูลคลื่น 700 MHz หนุนอุตสาหกรรม 5 จี ส่วนทีวีเปิดทางคืนไลเซ่นส์ แย้มชดเชย 60% ของค่าไลเซ่นส์ ที่ชำระแล้ว คาดทำให้จูงใจคืนช่องกว่า 10 ราย ส่วนรายใดยังอยู่ในตลาดต่อไม่ต้องจ่ายค่าไลเซ่นส์งวดที่เหลือ 1.3 หมื่นล้านบาท
- "ประยุทธ์" งัดม.44 แก้ปัญหาค่าตั๋ว รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต และ แบริ่ง-สมุทรปราการ สั่ง มท.ตั้งคณะกรรมการเจรจาเกณฑ์แบ่งผลประโยชน์รัฐ-บีทีเอส ขีดเส้นแก้สัมปทานใน 30 วัน
- กกต.มีมติเอกฉันท์ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความใช้สูตรกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ จัดสรรเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรคเล็กคะแนนไม่ถึงจำนวน ส.ส.พึงมีให้ได้สิทธิ์มี ส.ส.ได้หรือไม่ ชี้เป็นวิธีเดียวทำให้จัดสรรครบ 150 ส.ส. คาดตุลาการเริ่มถกหลังสงกรานต์
- แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ดีอย่างที่คาดการณ์เนื่องจากผลการเลือกตั้งยังไม่มีความชัดเจนประกอบกับช่วงที่มีเลือกตั้งเงินไม่ได้สะพัดตามที่ประเมินไว้ ซึ่งในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาแม้ว่าจะขายได้ แต่ก็ไม่มากอย่างที่ควรจะเป็น
*หุ้นเด่นวันนี้
- BBL (ทรีนีตี้) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 231 บาท คาดกำไร Q1/62 อยู่ที่ 9,164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%QoQ และ 2%YoY มีปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานใน 4Q61 ทำให้ใน Q1/62 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกลับมาอยู่ในระดับปกติ ขณะที่คาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิทรงตัว QoQ เนื่องจากสินเชื่อยังไม่เติบโต ส่วนค่าธรรมเนียมอาจลดลง แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต QoQ โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุน ส่วนแนวโน้มปี 62 คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตดี บวกกับสำรองหนี้ลดลง
- BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 28 บาท แม้คาดกำไรปกติ Q1/62 +29.8% Q-Q, -7.6% Y-Y ชะลอชั่วคราวจากฐานสูงใน 1Q61 จากโรคระบาดที่มาก แต่กำไรสุทธิคาดโตก้าวกระโดด +497.5% Q-Q, +176.3% Y-Y จากการบันทึกกำไรพิเศษหลังขายหุ้น RAM อย่างไรก็ตามปรับประมาณการกำไรปกติปี 62 ลงเล็กน้อย 4% เหลือเติบโต 5.4% Y-Y สะท้อนรายได้ที่โตชะลอและต้นทุนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังเปิดโรงพยาบาลและโรงแรมในช่วงกลางปี แต่ยังสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง
- PLANB (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท โดยยอด Presales Q1/62 ยังอยู่ในระดับที่ดี แม้ไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ลดลง 28% YoY และ 20% QoQ แต่สูงกว่าเป้าหมายที่ ANAN ตั้งไว้ที่ 19% เป็นผลจากการเร่งขายก่อนเริ่มมาตรการ LTV เดือน เม.ย.นี้ ขณะที่คาดว่ายอด Presales จะดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี จากแผนเปิดโครงการใหม่มากขึ้น โดย ANAN ตั้งเป้าหมายเปิดโครงการใหมีปีนี้มูลค่ารวม 3.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% ส่วนยอด Presales ทั้งปีคาดจะอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ด้านกำไรสุทธิ Q1/62 คาดดีขึ้น YoY จากการเร่งโอนก่อนเริ่ม LTV แต่จะลดลง QoQ จากฐานกำไรที่สูงในไตรมาสก่อน ส่วนกำไรสุทธิทั้งปี 62 ประเมินที่ 2.4 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน