BCP ลุ้นธุรกิจปิโตรเลียมในนอร์เวย์สร้างกำไรให้ 900 ลบ.ปีนี้ พร้อมเตรียมผลิตแร่ลิเทียมในอาร์เจนตินาปี 63

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 17, 2019 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า การเข้าลงทุน 49% ใน OKEA AS (OKEA) ซึ่งเป็นผู้สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น คาดว่าจะสามารถทำกำไรกลับเข้ามาสู่บริษัทตามสัดส่วนการลงทุนหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ โดยปัจจุบันโครงการมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 2 หมื่นบาร์เรล/วัน หากราคาน้ำมันดิบอยู่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล บริษัทก็จะมีกำไรประมาณ 900 ล้านบาทในปีนี้

ทั้งนี้ การลงทุนใน OKEA เป็นการลงทุนโดยผ่านบริษัทย่อยคือ BCPR Pte.Ltd. ซึ่งในอนาคตก็มีแผนจะนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนอร์เวย์เพื่อระดมทุนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอนาคตด้วย

ปัจจุบัน OKEA มีทรัพย์สินปิโตรเลียม 5 แหล่งในนอร์เวย์ โดยเป็นแหล่งที่ผลิตแล้ว 2 แหล่ง ได้แก่ Draugen ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมัน จำหน่ายในตลาดจร (spot) และแหล่ง Gjoa เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติ 80% จำหน่ายไปยังอังกฤษ ส่วนอีก 20% เป็นแหล่งน้ำมัน

"น้ำมันจะอยู่กับเราอย่างน้อย 40 ปีบวกลบ ส่วนก๊าซฯก็ 100 ปีบวกลบ ที่เราเข้าไปลงทุนในนอร์เวย์ ใช้เงินลงทุนไปแค่ 90 กว่าล้านเหรียญ มี production 2 หมื่นบาร์เรล เราถือหุ้นใหญ่สุดเลย แล้วรู้ไหมว่าถ้าราคาน้ำมัน 60 เหรียญฯ ปีนี้จะกำไรส่วนของเราที่ถือครึ่งหนึ่งก็ 900 ล้านบาท แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วเพราะเป็นจุดเริ่มต้น...ตัวนี้คิดว่าเดี๋ยวจะเห็นตัวลูกเรา IPO เมืองนอกที่ตลาดนอร์เวย์"นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาโครงการเหมืองแร่ลิเทียม ในอาร์เจนตินานั้น คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเฟสแรกได้ในต้นปี 63 ล่าช้าจากเป้าหมายเล็กน้อย หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นจากเดิมคือ Sociedad Quimica y Minera de Chile (SQM) มาเป็น Ganfeng Lithium ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน ขณะที่กลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นร่วมในโครงการดังกล่าว ได้สิทธิซื้อแร่ลิเทียม จำนวน 2,500 ตัน /ปีโดยราคาตลาดโลกปัจจุบันอยู่ที่ 12,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่หากเป็นราคาตลาดจรจะอยู่ที่ 20,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน

"โครงการนี้ดีวันดีคืน อีก 2 ปีก็จะเป็นสมบัติของบางจาก คิดว่าถ้าวันข้างหน้ามีโรงแบตเตอรี่ก็คิดว่าจะเอา BCPG (บมจ.บีซีพีจี) ไปทำอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทำวันนี้เพราะแบตเตอรี่ยังไม่เสถียร เราก็ wait & see ยังไม่อยากลงทุน เราเก็บหัวใจสำคัญของการทำแบตเตอรี่เอาไว้ดีกว่า"นายพิชัย กล่าว

สำหรับการลงทุนเหมืองแร่ลิเทียม ของ BCP เป็นการลงทุนผ่านการถือหุ้น 15.8% ใน Lithium Americas Corp. (LAC) ขณะที่ LAC เป็นผู้ถือหุ้น 50% ร่วมกับ Ganfeng Lithium ถือหุ้นอีก 50% ใน Minera Exar ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเหมืองแร่ลิเทียมในอาร์เจนตินา นอกจากนี้ LAC ยังถือหุ้น 100% สำหรับการพัฒนาเหมืองแร่ลิเทียมอีกแห่งหนึ่งในรัฐ Nevada ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ

LAC เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโตประเทศแคนาดา ประกอบธุรกิจเหมืองแร่ลิเทียม เพื่อผลิตเป็นลิเทียมคาร์บอเนตและลิเทียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่กำลังเติบโตอย่างมาก ประกอบด้วยรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดพกพาต่าง ๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ