นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHFUND) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) สิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1-2 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนออกกองทุนใหม่ที่จะเน้นคุณภาพมากขึ้น แม้ว่าจำนวนกองทุนอาจจะไม่มากเมื่อเทียบกับปีก่อน
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHBANK) พร้อมด้วย INVESCO Asset Management ผู้จัดการกองทุนระดับโลก ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสการลงทุนทั่วโลกแบบไร้ขีดจำกัด ยกระดับการให้บริการทางการเงินด้วยความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการเงินจากผู้จัดการกองทุนระดับโลก และตอบโจทย์ระยะยาวสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าในระดับ 4-6%
"การวางแผน Asset Allocation ที่ดีจะช่วยลูกค้าอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน หรือท่ามกลางข่าวเหตุการณ์ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดหุ้น เห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นมีการขึ้นลงตามความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เรื่องสงครามการค้านโยบายการเงินของธนาคารกลางของสหรัฐและทั่วโลก กองทุนที่มีการทำ Asset Allocation ที่ดีสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์มีการวิเคราะห์ถึงความผันผวนและมีการลงทุนในหลายๆ Asset class จะให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับความเสี่ยง
ดังนั้น จึงเป็นที่มาของข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินร่วมกันของทั้ง 3 บริษัท โดยเฉพาะ Portfolio Solution หรือ Asset Allocation จัดสินทรัพย์ลงทุนเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า Wealth หรือกลุ่ม High Net Worth โดยมีผู้จัดการกองทุนระดับโลกอย่าง INVESCO มาช่วยเพิ่มศักยภาพและโอกาสการลงทุนทั่วโลก"นายมนรัฐ กล่าว
ปัจจุบัน INVESCO มีสินทรัพย์ที่บริหาร (AUM) อยู่ที่ 954.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีสาขาในประเทศต่างๆรวม 25 ประเทศ อีกทั้งมีประวัติการบริหารการลงทุนกว่า 50 ปี ซึ่งความร่วมมือกันในครั้งนี้ INVESCO จะส่งทีมงานมาร่วมเป็นคณะกรรมการจัดสินทรัพย์ลงทุนร่วมกับผู้จัดการกองทุนของ LHFUND และเจ้าหน้าที่บริหาร Product Management ของ LHBANK
โดยเทคโนโลยีทางด้านการลงทุนจะถูกถ่ายทอดมาสู่ผลิตภัณฑ์การลงทุนของ LHFUND และส่งต่อไปยังนักลงทุนผ่านคำแนะนำการลงทุนของ LHBANK เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนอย่างไร้พรมแดน จากความร่วมมือกับ INVESCO ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจเหมือนกับมีตัวแทนอยู่ในตลาดต่างประเทศ ทำให้ทันต่อสถานการณ์การลงทุนในตลาดที่สำคัญๆ จากความเชี่ยวชาญในเรื่อง Multi-asset Management ของ INVESCO นับเป็น Strategic Partner ที่จะสะท้อนกลับมาเป็นประโยชน์ให้ลูกค้า LHFUND และ LHBANK
นายมนรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงทุนในช่วงนี้มองว่าตลาดตราสารทุนยังคงมีความน่าสนใจ โดยแนะนำนักลงทุนให้เข้าเก็งกำไรในหุ้นในช่วงก่อนการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ เช่น หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นที่มีการลงทุนต่อเนื่อง อย่างอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เช่น กลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มอง P/E ตลาดหุ้นไทยในปี 62 ไว้ที่ 16 เท่า