บมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) เตรียมกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้นในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงต้นเดือน พ.ค. นี้
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VRANDA กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 23.46% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ
ทั้งนี้ ในวันแรกที่หุ้นของ VRANDA เริ่มทำการซื้อขายใน SET นางพรนภัส องค์วาสิฏฐ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเดิมที่ถืออยู่ให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวนไม่เกิน 50 ราย บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot) จำนวนไม่เกิน 1 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.31%
ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น ไม่เกิน 1,598,408,360 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 319,681,672 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์การใช้เงินจากระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ขยายธุรกิจของบริษัท ชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ปัจจุบัน VRANDA เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดพักอาศัย และธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เริ่มต้นธุรกิจจากการพัฒนาโรงแรมแห่งแรก คือ "วีรันดา รีสอร์ท หัวหิน"เมื่อประมาณ 15 ปีก่อน ต่อมาจึงขยายธุรกิจไปสู่การพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยในบริเวณติดกับโรงแรม และขยายไปพัฒนา วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา ,วีรันดา ไฮ เรสซิเดนซ์ เชียงใหม่ และโครงการล่าสุดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คือ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
บริษัทยังขยายธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ ร้านอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อ Skoop Beach Cafe สาขาพัทยา และสาขาหัวหิน ที่เปิดดำเนินการเมื่อเดือนก.ย.58 และเดือนเม.ย.60 ตามลำดับ และร้านเครื่องดื่ม และขนมหวาน ภายใต้ชื่อ KOF สาขาสาทร และทองหล่อ เปิดดำเนินการเมื่อเดือนม.ค.61 และเดือนมิ.ย.61 ตามลำดับ โดยมีแผนขยายสาขาร้าน KOF อีก 1 สาขาในช่วงปลายปี 62 และภายในไตรมาส 2/62 บริษัทมีแผนจะเปิดร้าน Skoop & Co. ที่โครงการ เจ อเวนิว ทองหล่อ และที่โครงการ เดอ มาร์เช่ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับร้านชานมไข่มุก The Alley ที่โครงการ เดอ มาร์เช่ จังหวัดเชียงใหม่
ในช่วง 3 ปี ย้อนหลังบริษัทมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยที่ 40% ซึ่งในปี 61 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 2,400 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 236 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 10% ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนจากรายได้ประจำจากธุรกิจโรงแรมสูงถึง 54% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มราว 1% ส่วนที่เหลือมาจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายสัดส่วนราว 44% และยังมีการพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง
"บริษัทมีความมั่นใจในที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาโดยตลอด และบริษัทเองมีความเข้มแข็งตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตมาโดยตลอด"นายวีรวัฒน์ กล่าว
นายอิสระ หวั่งหลี หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน สายงานวาณิชธนกิจ บล. บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน VRANDA เปิดเผยว่า ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น IPO ของ VRANDA เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าไม่มีบริษัทในกลุ่มโรงแรมเข้ามาจดทะเบียนเป็นเวลานานมาก และบริษัทเองก็มีการเติบโตมาโดยตลอด ในขณะเดียวกันช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาวะตลาดเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนั้น ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัททุกรายที่ถือหุ้นจำนวน 1 แสนหุ้นขึ้นไป จะต้องทำหนังสือข้อตกลงกับผู้จัดการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายว่าจะไม่จำหน่ายหรือโอนหุ้นของตนให้แก่บุคคลอื่นในช่วงระยะเวลา 1 ปี เพื่อเป็นการเรียกความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นอีกทางหนึ่ง
"ในปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนนี้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง และหากมองไปในตัวของบริษัทเองก็มีการเติบโตมาโดยตลาด ซึ่งในอุตสาหกรรมโรงแรมเองก็ไม่มีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่มาเป็นเวลานานแล้วด้วย ขณะที่การตั้งราคาขาย IPO เราก็จะให้ส่วนลดกับนักลงทุนเพื่อเป็นการจูงใจ โดยปัจจุบันอุตสากหรรมดังกล่าวมีระดับ P/E ที่ 25-30 เท่า"นายอิสระ กล่าว