ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง : วิตกศก.สหรัฐถดถอย ถ่วงฮั่งเส็งปิดร่วง 197.95 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 31, 2008 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดลงอีก 0.50% จะสามารถสกัดกั้นไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้จริง
เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมนโยบายเมื่อคืนนี้ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ แต่ตลาดหุ้นนิวยอร์กก็ปรับตัวลงอันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันหุ้นกู้รายใหญ่ที่สุด 2 แห่งของสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขยายตัวขึ้นเพียง 0.6% ในไตรมาส 4 ปี 2550 ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับของไตรมาส 3 ที่ 4.9% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 1.2%
หลังจากที่ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนีก็ได้เคลื่อนไหวในแดนลบและบวก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค
"การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศในตลาดให้ดีขึ้น ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% แต่บรรดานักลงทุนก็รู้ดีว่าการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้อาจไม่เพียงพอที่จะสกัดกั้นไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย" ปีเตอร์ ไล นักวิเคราะห์จากดีบีเอส วิคเกอร์กล่าว
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งร่วง 197.95 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 23,455.74 จุด หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 23,052.95 และสูงสุดที่ 23,887.17 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 1.107 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง
นอกจากนี้ ฤดูหนาวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของจีนยังเป็นปัจจัยที่ฉุดให้ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงเช่นกัน
อัตราเงินเฟ้อของจีนอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปีในปี 2550 และเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 เนื่องจากพายุหิมะที่พัดถล่มได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ อาทิ การคมนาคมขนส่ง การเกษตร การจัดจำหน่ายและการก่อสร้าง รวมถึงทำให้การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆหยุดชะงักลง
"เราคาดว่าจะมีปัจจัยลบจากจีนเข้ามาในตลาดอีก" เบนจามิน คอลเล็ท นิกวิเคราะห์จากไดวา ซิเคียวริตี้ส์ ซีเอ็มบีซีกล่าว
ทั้งนี้ จีนได้ออกมาตรการคุมเข้มเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเพดานสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์ รวมถึงการควบคุมราคาน้ำมัน ถ่านหิน และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ