นายสำมิตร สกุลวิระ ประธานสายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจในปี 62 เติบโต 9% จากปีก่อน โดยจะผลักดันให้สายงานสินเชื่อธุรกิจ เป็นที่รับรู้ในกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการมากขึ้น นอกจากธุรกิจสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ธนาคารมีความชำนาญเป็นพิเศษในอันดับต้น ๆ ในตลาดแล้ว ธนาคารยังพร้อมให้การสนับสนุนทางด้านการเงินครบวงจร (Financial Solution) แก่ผู้ประกอบการผ่านผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า (Smart Relationship Manager) ที่มีความเข้าใจต้องการลูกค้าอย่างครบมิติ
"ที่ผ่านมาสินเชื่อธุรกิจมียอดสินเชื่อรวม 55,813 ล้านบาท สำหรับปีนี้เป้าหมายของสายสินเชื่อธุรกิจ เน้นการเติบโตในเชิงคุณภาพที่ระดับ 9% จากสิ้นปี 2561 โดยการนำเสนอ Financial Solution จะต้องมาจากการทำความเข้าใจลักษณะของธุรกิจ พฤติกรรมการใช้บริการ และความพร้อมของลูกค้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่การยัดเยียด อย่างที่พูดว่า ‘ไม่เร่งเรื่องปริมาณ แต่เร่งเรื่องความเข้าใจลูกค้า’ คาดว่าพัฒนาการเหล่านี้จะทำให้ธนาคารตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุดและครบถ้วน" นายสำมิตร กล่าว
นายสำมิตร กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ในปี 62 ธนาคารยืนยันแนวคิดลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง (Customer Centric) ที่นำความต้องการของลูกค้ามาต่อยอดทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการ ตลอดจนมี Smart Relationship Manager หรือผู้ดูแลความสัมพันธ์ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ไม่ว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล โดย Smart Relationship Manager จะนำเสนอ Financial Solution ซึ่งครอบคลุมบริการใน 4 มิติ ตั้งแต่การจัดหาเงินทุน (Lending) การป้องกันความเสี่ยง (Risk Protection) การบริหารจัดการทางการเงิน (Business Transaction) และการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)
ทั้งนี้ ธนาคารเชื่อว่า Financial Solution ที่มีรากฐานอยู่บนความเข้าใจจะสร้างประสบการณ์ที่ดี และส่งเสริมให้ธุรกิจของลูกค้าประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการเป็น The Partner of Your Success ของธนาคาร
ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจของธนาคารได้ให้บริการครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ อาทิ การรับเหมาก่อสร้าง การวางระบบงานก่อสร้างและไอที หรือการค้าวัสดุก่อสร้าง ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของสายงาน โดยแม้ในภาพรวมตลาดอาจจะยังไม่ได้มีทิศทางบวกอย่างชัดเจน แต่ด้วยจุดแข็งของธนาคารที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน (Real Estate Advisory Service) ทั้งวิศวกร และนักออกแบบ ที่พร้อมให้บริการตั้งแต่การวิเคราะห์ความเหมาะสมของทำเลต่อรูปแบบการพัฒนาโครงการ การบริหารจัดการต้นทุน ตลอดจนการประเมินความเป็นไปได้ตั้งแต่เริ่มโครงการจนสิ้นสุด น่าจะเป็นจุดต่างที่ทำให้ธนาคารรักษาการเติบโตในกลุ่มนี้ได้ ยิ่งกว่านั้น
สำหรับปี 62 ธนาคารยังตั้งเป้าเจาะลูกค้ากลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตมากขึ้น โดยมีแผนขยายสนับสนุนกลุ่มธุรกิจที่กำลังมาแรง อาทิ ธุรกิจด้านสุขภาพ และธุรกิจด้านการดูแลผู้สูง เพื่อตอบรับกับสภาพสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงอีกด้วย