ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับลดลงเล็กน้อยในวันนี้ (31 ม.ค.) หลังนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและเทขายหุ้น
เมื่อคืนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.5% ตามที่มีการคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวไม่สามารถกระตุ้นให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นได้ ทั้งนี้ เฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ยหลังมีรายงานว่าเศรษฐกิจสหรัฐแทบไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว นอกจากนั้นการขยายตัวของจีดีพียังชะลอตัวลงเหลือเพียง 0.6% ในไตรมาส 4 จากเดิมที่ 4.9% ในไตรมาส 3
"สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐยังไม่ดีขึ้น และในประเทศอื่นทั่วโลกก็อาจเป็นเช่นเดียวกัน" เค อาจิต นักวิเคราะห์จาก UOB Kay Hian กล่าว "วิกฤติสินเชื่อที่เกิดขึ้นในสหรัฐมีความรุนแรงเกินไปจนนักลงทุนไม่มั่นใจว่าเฟดจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เพียงชั่วข้ามคืน"
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ขยับลงเล็กน้อยที่ 18.28 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 2,981.75 จุด หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 2,976.65 จุด และสูงสุดที่ 3,036.77 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.7 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ อัตราการว่างงานของสิงคโปร์ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ที่ 1.6% ในไตรมาส 4 โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันธุรกิจปล่อยกู้เพื่อการพาณิชย์ก็ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20% โดยได้รับแรงหนุนจากการกู้เงินเพื่อการก่อสร้างในภาคอสังหาริมทรัพย์
แม้ข้อมูลเศรษฐกิจของสิงคโปร์จะเป็นไปในเชิงบวก แต่นักลงทุนก็ยังมีท่าทีระมัดระวัง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของสิงคโปร์และอาจฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วย
หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นแกนนำในการปรับลดลง โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ร่วง 32 เซนต์ และ หุ้นโอซีบีซี ลดลง 9 เซนต์ ในขณะที่หุ้นยูโอบียังทรงตัว
ส่วนหุ้นบลูชิปประกอบด้วย หุ้นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ลดลง 14 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ เพรสส์ โฮลดิงส์ ขยับลง 4 เซนต์ และ หุ้นสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เอนจิเนียริ่ง ขยับลง 4 เซนต์ เช่นกัน
หุ้นสิงคโปร์ ปิโตรเลียม โค (เอสพีซี) เพิ่ม 6 เซนต์ หลังบริษัทเปิดเผยผลกำไรสุทธิปี 2550 ที่ขยายตัวกว่า 78.7%
หุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ ร่วง 35 เซนต์ หลังซิตี้กรุ๊ปปรับลดราคาหุ้นของสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ ลงเหลือ 6.45 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น จากเดิมที่ 11.22 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น เนื่องจากปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นลดลง
ด้านหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับลดลงเช่นกัน โดยหุ้นแคปิตัลแลนด์ ลดลง 9 เซนต์, หุ้นเคปเพลแลนด์ ลดลง 8 เซนต์ และ หุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ร่วง 26 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--