ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 207.53 จุดรับข่าวบ.ประกันหุ้นกู้

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของธุรกิจประกันหุ้นกู้ หลังจากผู้บริหารบริษัทเอ็มบีไอเอ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันหุ้นกู้รายใหญ่ได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเสถียรภาพของบริษัทให้นักลงทุนได้รับทราบ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยพยุงหุ้นกลุ่มการเงินฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อไป
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 207.53 จุด หรือ 1.67% แตะระดับ  12,650.36 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 22.74 จุด หรือ 1.68% แตะระดับ 1,378.55 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดดีดตัวขึ้น 40.86 จุด หรือ 1.74% แตะระดับ 2,389.86 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 5.22 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันพุธที่ 4.64 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 
          ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับข่าวที่ว่า นายแกรี ดันตัน ผู้บริหารของบริษัทเอ็มบีไอเอ อิงค์ กล่าวกับนักลงทุนว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถรั้งอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ไว้ได้ และมั่นใจว่าเอ็มบีไอเอจะสามารถระดมทุนใหม่ๆได้ด้วย หลังจากที่นายชาร์ลส  แกสปาริโน ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี แสดงความเห็นเมื่อวันก่อนว่า บริษัทประกันหุ้นกู้รายใหญ่ที่สุด 2 แห่งของสหรัฐ อาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ภาคการเงินขาดทุนหนักยิ่งขึ้น 
          รายงานระบุว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ และฟิทช์ เรทติ้งส์ กำลังทบทวนอันดับเครดิตของเอ็มบีไอเอ และบริษัทประกันหุ้นกู้รายอื่นๆ
          นอกจากนี้ มีรายงานในด้านบวกเกี่ยวกับธุรกิจประกันหุ้นกู้ว่า นายอีเลียต สปิทเซอร์ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์คกล่าวว่า เขาและผู้กำกับดูแลด้านการประกันของรัฐ มีความคืบหน้าใน การกำหนดแผนการที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับบริษัทประกันหุ้นกู้ 
          "นอกจากนักลงทุนจะตอบรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดแล้ว บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคึกคักขึ้นเมื่อผู้บริหารของเอ็มบีไอเอออกมาปลุกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอีกครั้ง" นายไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากบริษัทแชฟเฟอร์ อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช ในเมืองซินซินเนติ กล่าว
          เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีก 0.50% สู่ระดับ 3.0% และลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงอีก 0.50% สู่ระดับ 3.5% เพื่อป้องกันเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคณะกรรมการเฟดคาดหวังว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดและการลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.75% ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตปานกลาง และจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้วย
          ทั้งนี้ หุ้นเอ็มบีไอเอซึ่งร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้หลังจากรายงานยอดขาดทุนไตรมาส 4 เป็นเงินสูงถึง 2.3 พันบ้านดอลลาร์เนื่องจากการตัดบัญชีหนี้สูญนั้น ดีดตัวขึ้น 11% เมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้นแอมแบค ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นคู่แข่ง พุ่งขึ้น 9.2 %
          ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินตัวอื่นๆนั้น หุ้นซิตี้กรุ๊ปทะยานขึ้น 2.2% ขณะที่หุ้นเคบี โฮม ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ดีดขึ้น 9.2%