นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อรับมือการแข่งขันของธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงอิทธิพล Digital Disruptive ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยแบ่งโครงสร้างออกเป็น 4 กลุ่มแกนหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจโลจิสติกส์ ที่จะเพิ่มบริการที่หลากหลายครอบคลุมบริการครบวงจรรองรับลูกค้าทั้งแบบ B2B และ B2C
2.ธุรกิจอาหาร ให้บริการฟู้ดซัพพลายเชนโซลูชั่นส์ ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบ สำหรับลูกค้า กระบวนการแปรรูปและจัดเตรียมวัตถุดิบพร้อมปรุง อาทิ ผักหั่นฝอย ไข่เหลวบรรจุขวด อบขนมปังและเบเกอรี่ สำหรับกลุ่มลูกค้า Quick Services Restaurants ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ บริการจัดเก็บและกระจายสินค้า รวมทั้งเป็นตัวแทนนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกี่ยวกับอาหารจากทั่วโลก พร้อมทั้งจะเลือกใช้ธุรกิจอาหารเป็นแฟลกชิปในการบุกตลาดประเทศต่าง ๆ ด้วย
3.ธุรกิจไอที ใช้เทคโนโลยีเป็นแกนหลักในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจ มุ่งพัฒนาด้านการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติที่สำคัญ เพื่อใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางช่วยให้สามารถตัดสินใจในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ สามารถพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าได้ล่วงหน้า รวมทั้งสร้างให้เกิดโมเดลทางธุรกิจใหม่ ๆ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า และ 4. ธุรกิจอินเวสต์เม้นต์ เน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโลจิสติกส์ รวมทั้งการลงทุนใหม่ ๆ ในธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ ทิศทางต่อไปคือการขยายบริการฟู้ดซัพพลายเชนเจาะเข้าไปในตลาดต่างประเทศในอาเซียน รวมถึงขยายโอกาสไปในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนและไต้หวัน ซึ่งเหตุผลที่เลือกธุรกิจอาหารเป็นแฟลกชิป เนื่องจากบริษืมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง, เป็นการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น และ เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามเทรนด์โลก