นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อันดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 430 ล้านบาท และยังคงเดินหน้าเจรจางานอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจางานของ TOYOTA ซึ่งจะเป็นรุ่นใหม่ คาดว่าจะได้งานประมูล 150 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะได้รับความชัดเจนภายในไตรมาส 2/62
ส่วนงบลงทุนปีนี้ ประเมินว่าจะใช้เงินประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรเข้ามาทดแทนเครื่องจักรเดิมที่ปลดระวาง 3 เครื่อง และการทำวิจัยและพัฒนาเพิ่ม 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 10% หรือมีรายได้ 2,200 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,982.14 ล้านบาท โดยจะเดินหน้าไปยังกลุ่มตลาดใหม่ ๆ ทั้งออสเตรเลีย ยุโรป สหรัฐฯ เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าวมีความต้องการสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับผลตอบแทนที่ดี และปีนี้จะมีปัจจัยหนุนจากโรงงานที่อินเดีย ซึ่งจะเริ่มรับรู้กำไรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 หลังจากที่ได้ทำสัญญา เพื่อพ่นสีให้กับค่ายรถจักรยานยนต์ของญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งได้เข้าไปลงทุนในตลาดอินเดีย นอกจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าการรับจ้างผลิตสินค้า หรือชิ้นส่วนให้กับแบรนด์ต่างๆ (OEM) มากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศด้วย
ด้านความสามารถของอัตรากำไรสุทธิปีนี้ คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่ 6.33% เนื่องจากจากการบริหารจัดการต้นทุนในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทั้งกระบวนการชุบ กระบวนการฉีดสี ซึ่งประเมินว่าต้นทุนปีนี้น่าจะลดลงประมาณ 40-50% ส่งผลให้ความสามารถของอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นได้
ขณะเดียวกันบริษัทมีนโยบายซื้อหุ้นคืนจำนวน 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.64%ของจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระและที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ทำการซื้อหุ้นคืนไปแล้ว จำนวน 10 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินที่ซื้อคืนแล้วประมาณ 23 ล้านบาท