ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,671.31 จุด ลดลง 2.17 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 41,640.15 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,679.26 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,670.75 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 437 หลักทรัพย์ ลดลง 809 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 495 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ โดยดัชนีฯยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,680 จุด แต่ปัจจัยบวกจากต่างประเทศค่อนข้างดี โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น หลังจากมองว่าสหรัฐฯอาจจะยุติการผ่อนผัน 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านในระหว่างการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค.นี้ ทำให้ Sentiment เป็นบวกต่อราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี คงจะต้องติดตามท่าทีของกลุ่มโอเปกว่าจะมีเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันมาชดเชยหรือไม่ โดยวันนี้ตลาดบ้านเราก็ได้หุ้น PTT และ PTTEP ขึ้นนำตลาดฯ
อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังรอปัจจัยอื่นเข้ามาหนุนอีก โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ในประเด็นของการท่องเที่ยวจะช่วยหนุนได้มากแค่ไหน นอกจากนี้ต้องจับตาพรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับวินิจฉัยสูตรการคำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) หรือไม่ เพราะจะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกกันเป็นส่วนใหญ่ ตอบรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งแคบ แต่โมเมนตัมไม่ได้แย่ เพราะได้ราคาน้ำมันมาช่วยหนุน พร้อมให้แนวรับ 1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,685 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,997.87 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,971.51 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,562.49 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,251.51 ล้านบาท ปิดที่ 454.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,000.87 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 0.75 บาท