นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ยู ซิตี้ (U) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (25 เม.ย. 62) มีมติให้บริษัทเข้าซื้อสินทรัพย์เป็นอาคารสำนักงานติดกับสถานี BTS เพลินจิต มูลค่า 800 ล้านบาท
อาคารดังกล่าวเป็นอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่เช่าสำนักงานและร้านค้าที่มีผู้เช่าอยู่แล้ว มีที่จอดรถ 125 คัน ซึ่งการเข้าซื่ออาคารสำนักงานดังกล่าวบริษัทจะได้มาทั้งสินทรัพย์และสัญญาการเช่าของผู้เช่าระยะเวลา 15 ปี ส่วนผลตอบแทนจากการเข้าซื้ออาคารดังกล่าวจะให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี โดยที่จะสร้างรายได้ค่าเช่าให้กับบริษัทเข้ามาราว 56 ล้านบาท/ปี
ส่วนารขายหุ้นในบริษัท หมอชิตแลนด์ จำกัด ให้กับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) มูลค่า 4.32 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทคาดว่าจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้นเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/62 ราว 1.6 พันล้านบาท โดยที่บริษัทจะโอนที่ดินจำนวน 11 ไร่ ให้กับผู้ซื้อในช่วงเดือน พ.ย.62 เนื่องจากเป็นไปตามขั้นตอนที่ทำให้บริษัทสามารถประหยัดภาษีได้ โดยที่ปัจจุบันผู้ซื้อได้จ่ายเงินมัดจำมาแล้ว 10%
"การขายหมอชิตแลนด์ ออกไปนั้นเป็นไปตามแผนการฟื้นฟูบริษัทให้กลับมาแข็งแกร่ง และสามารถให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นได้ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะให้มีอัตราผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นเฉลี่ย 7% ต่อปี ในระยะเวลา 5 ปี"นายคีรี กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้น
สำหรับความคืบหน้าการเจรจาแก้ไขสัญญาของโครงการร้อยชักสามกับกรมธนารักษ์ บริษัทคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ค.62 และเตรียมจะเข้าไปพัฒนาเป็นโรงแรม 5 ดาว และพื้นที่เช่าร้านอาหารชั้นนำ บนพื้นที่รวม 14,000 ตารางเมตร ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยจะใช้เงินลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท
ขณะที่ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการยูนิคอร์น ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลพญาไท ความสูง 51 ชั้น ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 8% กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 64 ประกอบด้วย พื้าที่เช่าอาคารสำนักงาน 120,000 ตารางเมตร พื้นที่เช่าร้านค้าปลีก 3,000 ล้านบาท และโรงแรม 5 ดาว แบรนด์ EASTIN จำนวน 515 ห้อง โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 10%
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเจรจาเข้าซื้อโรงแรมในเยอรมันเพิ่มเติมอีก 19 โรงแรมเข้ามาเพิ่มอีก คาดว่าจะใด้ข้อสรุปภายในต้นเดือน พ.ค.นี้ เพื่อทำให้พอร์ตโรงแรมมีความแข็งแกร่ง กระจายไปในหลายประเทศ และมีรายได้เข้ามาทันที
นายคีรี กล่าวว่า กลยุทธ์ของบริษัทในปีนี้ในส่วนของธุรกิจโรงแรมจะขยายการบริหารโรงแรมและเพิ่มจำนวนโรงแรม โดยเน้นแนวทาง Asset Light โดยการซื้อโรงแรมเข้ามา ส่วนอาคารสำนักงานจะมีการปรับปรุง เพิ่มราคา และเพิ่มพื้นที่ พร้อมกับบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งบริษัทจะยังมีแผนการจำหน่ายสินทรัพย์อีก 6 ชิ้นที่เหลือเพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับบริษัท และทำให้บริษัทมีเงินไปต่อยอดการลงทุน ซึ่งปัจจุบันได้ขายสินทรัพย์ไปแล้ว 2 ชิ้น
นายคีรี กล่าวอีกว่า บริษัทมองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 62 จะมีการเติบโตขึ้นจากปีก่อน จากรายที่เข้ามาของโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของทั้งในและต่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปิดโรงแรมใหม่อีก 2 แห่ง คือ โรงแรม VH MOKOTOW WARSHAW จำนวน 164 ห้อง ที่ได้เปิดไปแล้วในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และ VHE KRINBERG จำนวน 96 ห้อง ซึ่งจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ ที่จะสร้างรายได้เข้ามาเสริม โดยที่รายได้ของธุรกิจโรงแรมยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัทในสัดส่วนที่มากที่สุดกว่า 40%
และในช่วงปลายปีนี้บริษัทจะมีการเดินทางไปโร้ดโชว์กับนักลงทุนมากขึ้น หลังจากที่มีความมั่นใจมากขึ้นแล้วว่าบริษัทสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่
"เราจะไม่หยุดนิ่ง เราจะไปต่อเรื่อยๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทตามที่สัญญากับผู้ถือหุ้นไว้ และมีธุรกิจใหม่ๆเพิ่มเข้ามาต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น เพื่อทำให้ U มีความน่าสนใจกับนักลงทุนและให้ผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น"นายคีรี กล่าว