โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) จากการคาดการณ์แนวโน้มของผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดของปี หลังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดเตรียมเข้าฉายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ Avengers Endgame ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่มีกระแสนิยมมากจะสามารถทำรายได้สูง หนุนรายได้จากการขายตั๋วของ MAJOR อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ยังคงเห็นทิศทางที่ดีของผลการดำเนินงานที่มีความต่อเนื่อง เพราะยังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายต่อเนื่อง ประกอบกับ MAHOR ปรับขึ้นค่าตั๋วหนังเล็กน้อย และจะขยายโรงภาพยนตร์อีก 70 โรง เน้นสาขาต่างจังหวัดเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และรองรับภาพยนตร์ไทยที่บริษัทร่วมทุนสร้างกับพันธมิตรก็เตรียมจะฉายในปีนี้กว่า 50 เรื่อง
ราคาหุ้น MAJOR ปิดตลาดเที่ยงวันนี้อยู่ที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+1.83%) ขณะที่ SET -0.11%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 31.50
ฟินันเซีย ซื้อ 31.00
ทรีนีตี้ ซื้อ 30.00
บัวหลวง ซื้อ 30.00
หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อเก็งกำไร 30.00
นักวิเคราะห์บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ราคาหุ้น MAJOR ปรับขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ภาพยนตร์ Avengers Endgame เข้าฉาย โดยราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกจากความคาดหวังของการเข้าฉายของภาพยนตร์ดังกล่าวที่เป็นกระแสระดับโลก ซึ่งจะส่งผลบวกต่อภาพรวมผลการดำเนินงาน MAJOR ในไตรมาส 2/62 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดทั้งรายได้และกำไร อีกทั้งในช่วงไตรมาส 2/62 เข้าสู่ซัมเมอร์ที่จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดเตรียมทยอยเข้าฉายอีกหลายเรื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า MAJOR มีการบริหารจัดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับการผลักดันให้ลูกค้าหันมาใช้บริการจองตั๋วภาพยนตร์ผ่านแอพพลิเคชั่นมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลงและหนุนต่อการปรับตัวขึ้นของกำไรขั้นต้นที่คาดว่าในไตรมาส 2/62 จะเพิ่มขึ้นมาที่ 32.5% จากสิ้นปี 61 ที่ระดับ 31% ส่วนรายได้ค่าโฆษณาในโรงภาพยนตร์ยังเห็นการเติบโตขึ้น เพราะมีลูกค้ารายใหม่ ๆ เข้ามาซื้อโฆษณาในโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น ช่วยหนุนรายได้ที่ไม่ใช่การขายตั๋วให้เติบโตขึ้นอีกด้วย
นางสาวพรสุข อมรวดีกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หลังจากเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มีภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดเข้าฉายในช่วงซัมเมอร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Avengers Endgame ที่ได้รับความสนใจและมีผู้ชมเข้ามาดูมาก จะทำให้รายได้จากการขายตั๋วเติบโตได้สูงกว่า 20% ในไตรมาส 2/62 และผลักดันให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 จะทำสถิติสูงสุดของปีนี้ด้วย
ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ MAJOR ยังมีแผนเปิดโรงภาพยนตร์อีก 70 โรง ซึ่งจะทำให้มีรายได้เข้ามาเพิ่มมากขึ้น และในช่วงไตรมาส 3/62 ไปจนถึงปลายปียังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดที่เป็นภาพยนตร์ภาคต่อจ่อคิวรอฉายอีกจำนวนมาก และภาพยนตร์ไทยที่ MAJOR ได้ร่วมทุนสร้างซึ่งจะมีประมาณ 50 เรื่องที่จะฉายในปีนี้ ก็จะเป็นการเจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด อีกทั้ง MAJOR ยังเน้นควบคุมต้นทุน และปรับช่องทางการขายโฆษณา ผ่านเอเจนซี่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้การขายโฆษณาต่าง ๆ ขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น
ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ในไตรมาส 2/62 เป็นช่วงที่มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดเตรียมเข้าฉายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่อง Avengers Endgame ที่ผู้ชมจำนวนมากต่างให้ความสนใจ และจะสร้างรายได้ได้สูง พร้อมกับการที่ MAJOR ได้ปรับเพิ่มอัตราค่าตั๋วเล็กน้อย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อทิศทางที่เป็นเชิงบวกต่อภาพรวมของผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดในปีนี้
อีกทั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังมีภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดเข้ามาฉายอีกมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ภาคต่อ พร้อมกับการขยายโรงภาพยนตร์ในเครืออีก 70 โรงที่จะกระจายไปในต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้เข้าถึงลูกค้าในต่างจังหวัด ช่วยขยายฐานในกลุ่มภาพยนตร์ไทยที่ MAJOR ได้ร่วมทุนสร้างกับพันธมิตรซึ่งจะมีภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายในปีนี้กว่า 50 เรื่อง มากกว่าปีก่อนที่มีภาพยนตร์ไทยเข้าฉาย 30 เรื่อง ซึ่งมองว่าในปีนี้ธุรกิจของ MAJOR จะมีความโดดเด่นมากจากภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายมีความน่าสนไจเป็นจำนวนมาก