สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (22 - 26 เมษายน 2562 2562) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 405,096.15 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 81,019.23 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 87% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของ ตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 74% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 301,429 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วน ใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 79,009 ล้านบาท และหุ้นกู้ ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 11,036 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB326A (อายุ 13.2 ปี) LB23DA (อายุ 4.6 ปี) และ LB21DA (อายุ 2.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ ละรุ่นเท่ากับ 13,351 ล้านบาท 12,905 ล้านบาท และ 7,560 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) รุ่น CPN22DA (AA) มูลค่าการซื้อขาย 819 ล้านบาท หุ้นกู้ของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รุ่น TBEV223A (AA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 634 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) รุ่น AMATA24OA (A) มูลค่าการ ซื้อขาย 591 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ประมาณ 1-2 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ สหภาพยุโรปรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน เม.ย. อยู่ที่ ระดับ -7.9 จุด ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ -7.7 จุด ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะยกเลิกคำสั่งผ่อนผันมาตรการคว่ำบาตรแก่ 8 ประเทศที่นำ เข้าน้ำมันจากอิหร่าน หลังวันที่ 2 พ.ค. ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ด้านผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวันที่ 25 เม.ย. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ - 0.1% พร้อมเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำอย่างน้อยจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 2563 ทั้งนี้ตลาดติดตามการประชุม FOMC ในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. นี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา (22 – 26 เม.ย. 62) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 5,653 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคง เหลือไม่เกิน 1 ปี) 226 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 4,900 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 980 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (22 - 26 เม.ย. 62) (17 - 19 เม.ย. 62) (%) (1 ม.ค. - 26 เม.ย. 62) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 405,096.15 216,116.84 87.44% 6,561,528.36 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 81,019.23 72,038.95 12.47% 83,057.32 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 106.21 106.18 0.03% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.2 104.23 -0.03% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (26 เม.ย. 62) 1.62 1.76 1.8 1.89 2.13 2.55 2.91 3.29 สัปดาห์ก่อนหน้า (19 เม.ย. 62) 1.61 1.76 1.8 1.87 2.14 2.55 2.89 3.3 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 0 0 2 -1 0 2 -1