บมจ.วิลล่า คุณาลัย ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 29 เม.ย.62 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75,000,000 หุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ และจะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มเติมในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี คาดว่าจะใช้เงินในปี 62 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการในปี 63
วิลล่า คุณาลัย ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย เน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑล โดยเฉพาะอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยมีบริษัทย่อย คือ บริษัท วิลล่า วาณิช จำกัด ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขายเช่นเดียวกัน
โครงการส่วนใหญ่ของบริษัทและบริษัทย่อย มีราคาขายประมาณ 1-6 ล้านบาท เนื้อที่โครงการเฉลี่ยประมาณ 8-47 ไร่ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ กลุ่มวัยเริ่มทำงาน กลุ่มผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมช่วงอายุ 21-55 ปี กลุ่มลูกค้าท้องถิ่น (Local) ที่มีความต้องการขยายครอบครัว
ณ วันที่ 31 ธ.ค.61 โครงการที่กลุ่มบริษัทปิดการขายได้ตั้งแต่ดำเนินกิจการมีจำนวนทั้งสิ้น 4 โครงการ อีกทั้งยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 5 โครงการ
นอกจากนั้น บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ในแผนงานในอนาคตอีก 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2,823 ล้านบาท ได้แก่ โครงการคุณาลัย จอย ออน 314 (Kunalai Joy on 314) เป็นบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 497 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2/62 และเปิดขายในไตรมาส 3/62
โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2 เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น, อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 826 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 1/62 และเริ่มขายในไตรมาส 4/62 อยู่ระหว่างถมดินและปรับปรุงพื้นที่ และ โครงการคุณาลัย จอย 2 เป็นบ้านแฝด- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3/63 และเปิดขายในไตรมาส 4/63 อยู่ระหว่างการออกแบบและปรับแบบ
ณ วันที่ 27 ก.พ.62 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนที่เรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ กลุ่มนางประวีรัตน์ เทวอักษร ถือหุ้น 108,393,900 หุ้น คิดเป็น 48.18% หลังเสนอขายหุ้น IPO แล้วจะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 36.13%, กลุ่มศังขวณิช ถือหุ้น 30,000,000 หุ้น คิดเป็น 13.33% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 10%, กลุ่มเทวอักษร ถือหุ้น 60,000,000 หุ้น คิดเป็น 26.67% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 20%
ผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับปี 59, ปี 60 และปี 61 กลุ่มบริษัทรายได้รวม เท่ากับ 297.50 ล้านบาท 450.38 ล้านบาท และ 447.09 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 5.94 ล้านบาท 10.80 ล้านบาท และ 11.56 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมเติบโตขึ้นจากการเติบโตของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
ณ วันที่ 31 ธ.ค.61 บริษัทมีสินทรัพย์ 818.09 ล้านบาท หนี้สินรวม 522.80 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 295.29 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล แลหลังหักเงินสำรองตามกฎหมายในแต่ละปีจากงบเฉพาะกิจการ