หุ้น DCC ราคาขยับขึ้น 1.94% มาอยู่ที่ 2.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 12.82 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.12 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 2.08 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯปรับคำแนะนำหุ้นบมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) เป็น"ซื้อเก็งกำไร"จากเดิม"ถือ" เนื่องจากผลประกอบการที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดย DCC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิที่ฟื้นตัวดีขึ้น 306 ล้านบาท (+36%QoQ, +10%YoY) ผลประกอบการได้แรงหนุนจากยอดขายที่เติบโต 2,316 ล้านบาท (+21%QoQ, +4%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น 38.7% ใกล้ไตรมาสก่อน ในขณะที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน 36.9% จากราคาขายเฉลี่ยที่ดีขึ้น และ ต้นทุนการผลิตที่ลดลงจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น รายได้อื่นเพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านบาท (+51%QoQ, +290%) ซึ่ง DCC เริ่มรับรู้รายได้ค่าเช่าสำหรับศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างครบวงจรเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงจากปีก่อนเหลือ 455 ล้านบาท (+9%QoQ, -2%YoY) จากค่าขนส่งที่ลดลงตามราคาน้ำมันดีเซล
ทั้งนี้ จ่ายปันผลกำไรไตรมาส 1/62 คิดเป็น 76.8% ของกำไร หรือคิดเป็นปันผลต่อหุ้นเท่ากับ 0.025-0.036 บาท ขึ้นกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ โดยประเมินราคาเป้าหมายบนฐาน ค่าเฉลี่ยของ Dividend Yield – 2SD = 4% โดยคำนึงถึงผล Dilution ของวอร์แรนท์ จะได้ราคาเท่ากับ 2.60 บาท
แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ DCC จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 3 สายการผลิต คือ DCC 2 สายการผลิต RCI 1 สายการผลิต รวม 900,000 ตร.ม./เดือน ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำลังการผลิต 7 ล้านตร.ม./เดือน จะมีการขยายตลาดนัดกระเบื้องเพิ่มอีก 5 สาขา เป็น 204 สาขา ณ สิ้นปี 2562 และ ใน 5 ปีข้างหน้า คือ ปี 2566 จะเพิ่มเป็น 219 สาขา รวมถึงพัฒนาศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างหลากหลาย ใช้เงินลงทุนรวมใน 5 ปี เท่ากับ 2,300 ล้านบาท ปี 2562 ประเมินยอดขายของ DCC จะเติบโต 10% สู่ระดับ 8,814 ล้านบาท และคาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,113 ล้านบาท เติบโต 14% โดยประมาณการยังไม่รวม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ซึ่งจากหมายเหตุประกอบงบระบุจะต้องบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่ม 43 ล้านบาท