สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ ( 29 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2562) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 350,093.26 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 87,523.31 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 14% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภท ของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 74% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 259,116 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 66,250 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 12,746 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB326A (อายุ 13.2 ปี) LB28DA (อายุ 9.6 ปี) และ LB26DA (อายุ 7.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย ในแต่ละรุ่นเท่ากับ 12,128 ล้านบาท 11,690 ล้านบาท และ 7,699 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่น BJC206A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 1,121 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) รุ่น CPF204A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 657 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รุ่น BANPU207B (A+) มูลค่าการซื้อขาย 567 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแกว่งตัวในกรอบแคบประมาณ 1-2 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ ผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เมื่อวันที่ 30 เม.ย.- 1 พ.ค. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25-2.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาแถลงย้ำจุดยืนด้านนโยบายของ Fed แม้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม ด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประจำไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ระดับ 3.2% จากการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น และ การลงทุนในภาครัฐฯ ส่งผลให้ตลาดลดความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมา (29 เม.ย. 62 – 3 พ.ค. 62) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 11,907 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 3,846 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 4,461 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 3,600 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (29 เม.ย. - 3 พ.ค. 62) (22 - 26 เม.ย. 62) (%) (1 ม.ค. - 3 พ.ค. 62) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 350,093.26 405,096.15 -13.58% 6,911,621.62 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 87,523.31 81,019.23 8.03% 83,272.55 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 106.32 106.21 0.10% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.13 104.2 -0.07% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (3 พ.ค. 62) 1.64 1.76 1.8 1.89 2.12 2.55 2.89 3.29 สัปดาห์ก่อนหน้า (26 เม.ย. 62) 1.62 1.76 1.8 1.89 2.13 2.55 2.91 3.29 เปลี่ยนแปลง (basis point) 2 0 0 0 -1 0 -2 0