นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า การพิจารณาลงทุนธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียของกลุ่ม ปตท.คาดว่าจะสามารถตัดสินใจดำเนินการในธุรกิจดังกล่าวได้เสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้พิจารณาทางเลือกการลงทุนหลายแนวทาง ทั้งการปรับลดขนาดลงทุน การเปิดให้พันธมิตรเข้ามาร่วมถือหุ้น หรือการนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย เนื่องจากปัจจุบันปตท.มุ่งเน้นที่จะลงทุนด้านธุรกิจไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และการต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจถ่านหินแม้จะยังคงทำกำไรได้แต่ทิศทางราคาถ่านหินก็ไม่ได้สูงมากนัก
ส่วนธุรกิจปาล์มในอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันกลุ่มปตท.ได้ขายออกไปทั้งหมดและกระบวนการได้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดเมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานั้น กลุ่มปตท.ก็จะไม่เข้าไปลงทุนในธุรกิจดังกล่าวอีก แต่จะช่วยส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มในประเทศ ตามนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมน้ำมันไบโอดีเซล B10 และ B20 สำหรับการขายหุ้นที่เกี่ยวข้องในธุรกิจปาล์มนั้น ปตท.ได้มีการบันทึกทางบัญชีไปเรียบร้อยแล้วก็จะไม่มีการบันทึกขาดทุนเพิ่มเติมอีก
เมื่อเช้านี้ PTT แจ้งว่าบริษัท ปตท กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE SG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ในประเทศสิงคโปร์ ดำเนินการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัท Chancellor Oil Pte. Ltd. (CO) ที่ถืออยู่ 77.56% และเป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์เพื่อดำเนินธุรกิจปลูกปาล์มน้ำมันและผลิตน้ำมันปาล์มผ่านบริษัท PT First Borneo Plantations (PT FBP) รวมถึงโอนหนี้เงินกู้ที่ PTTGE SG ให้ FBP Group กู้ยืม ให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่เรียบร้อยแล้ว