หุ้น MTC ราคาร่วงลง 6.37% มาอยู่ที่ 47.75 บาท ลดลง 3.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 359.07 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.12 น. โดยเปิดตลาดที่ 48.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 48.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 46.75 บาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นบมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เช้านี้ปรับตัวลง คาดว่าจะเป็น Sell on fact หลังจากที่ได้เล่นเก็งกำไรไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และหลังประกาศผลกำไรงวดไตรมาส 1/62 ออกมาแล้วมีกำไรราว 1 พันล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดราว 5% ถือว่าเล็กน้อย ซึ่งหลัก ๆ มาจากส่วนต่างดอกเบี้ยที่ลดลง
ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น MTC เป้าพื้นฐาน 52 บาท รายงานกำไรไตรมาส 1/62 เท่ากับ 1 พันล้านบาท (+0.3% QoQ, +21% YoY) เป็นไปตามคาด แต่ต่ำกว่า Consensus คาดเล็กน้อย -5% ประเมินแนวโน้ม Earnings momentum ยังไปต่อในช่วง High season แต่เนื่องจาก Upside ไม่มาก กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำเพียง "ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว"
ส่วนบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น MTC กำไรสุทธิดีตามคาด และแนวโน้มโตต่อเนื่อง โดยบริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/62 ที่ราว 1 พันล้านบาท (+20.6%YoY, +0.3%QoQ) ใกล้เคียงกับที่คาด จากสินเชื่อขยายตัวที่ 33%YoY, 5%QoQ ตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,444 สาขา และสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง 25%YoY
นอกจากนี้ มองว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 จะยังขยายตัวต่อเนื่องจากการเร่งขยายสาขา และค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองลดลง ทั้งนี้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 4.7 พันล้านบาท (+27%) โดยเชื่อว่าในระยะยาวบริษัทจะได้รับผลบวกจากต้นทุนทางการเงินของหุ้นกู้ที่ลดลงภายหลังการปรับ Rating ขึ้นเป็น BBB+ (ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนแหล่งเงินกู้จากหุ้นกู้สูงถึง 73%) และการเริ่มปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในครึ่งปีหลัง (H2/62) จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายสินเชื่อ พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 57.00 บาท (อิง PBV 7.5x ใกล้เคียงกับ 5Yr AvgPBV+0.5SD)
ทั้งนี้ มองว่าในระยะสั้นช่วงไตรมาส 2-3 ปี 62 บริษัทยังคงได้รับผลกระทบจาก Loan Yiled ที่ลดลงจากการไม่รับรู้ Prepayment Fee แต่เชื่อว่าบริษัทจะสามารถปรับเพิ่ม Loan Yield ได้ในระยะยาว จากปัจจุบันอยู่ที่ 21.6% ต่ำกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บังคับที่ 28%