น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับออร์เดอร์ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทคอลลาเจน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าล็อตแรกภายในเดือน พ.ค.นี้ รวมถึงได้รับออร์เดอร์ใหม่ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคาดว่าจะทยอยส่งมอบพร้อมวางจำหน่ายได้ช่วงปลายไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีออร์เดอร์ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ เบื้องต้นคาดว่าจะนำไปจำหน่ายผ่านช่องทาง TV Shopping
สำหรับบริษัทย่อยภายใต้ ชื่อ อัลทิมา ไลฟ์ ล่าสุดมีออร์เดอร์ผลิตเข้ามาแล้วมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ในขณะที่บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ล่าสุด มีออร์ดอร์ที่อยู่ระหว่างออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายชนิด อาทิ ครีมกันแดด แผ่นมาร์คหน้า ลิปสติก ครีมรองพื้น โฟมล้างหน้า ครีมสครับหน้า โลชั่นกันยุงสำหรับเด็ก เป็นต้น คาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบได้ภายในปลายไตรมาส 2/62 หรือ อย่างช้าไม่เกินไตรมาส 3/62
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า จากออเดอร์ดังกล่าวที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายไตรมาส 2/62 จะส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 บริษัทจะมีรายได้เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ และด้วยแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อร่วมลงทุนในการพัฒนาและการผลิตผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตลอดจนการช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดในการขยายธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์และรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า
บริษัทร่วมทุนดังกล่าว DOD จะถือหุ้น 51% ส่วนอีก 49% ถือหุ้นโดย นางสาวธิวาภรณ์ จิตกล้า ซึ่งเป็นนักธุรกิจ วัย 26 ปี ชื่อดัง ภายใต้เจ้าของธุรกิจสบู่โฮยอน (Ho-YEON) ที่มียอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วแตะ 300 ล้านบาท จนได้รับฉายาว่า "โอ๋ โฮยอน อายุน้อยร้อยล้าน" โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่คร่ำหวอด ในการเป็นผู้นำด้านการตลาดออนไลน์ ที่มีตัวแทนขายทั่วประเทศ จำนวนกว่า 100,000 ราย
"จากจุดแข็งที่กล่าวมาทั้งหมดในข้างต้น ผนวกกับการที่พันธมิตรดังกล่าว เข้ามาช่วยบริหารงาน ภายใต้บริษัทย่อย ในครั้งนี้ จะเป็นการขยายกลยุทธ์ ทางการตลาดในเชิงรุก ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ DOD ให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการ One Stop Service Solution ได้ในระยะเวลาอันใกล้" น.ส.ศุภมาส กล่าว
น.ส.ศุภมาศ กล่าวว่า หลังจากแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจในข้างต้นจะส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของ DOD ในปี62 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 673.12 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน
นับตั้งแต่ DOD เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพครบวงจรแบบ One Stop Service Solution ส่งผลให้บริษัทฯต้องมีการสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ๆให้กับบริษัทฯ เพื่อต่อยอดศักยภาพและความแข็งแกร่งและรากฐานรายได้ ให้มีการเติบโตแข็งแรงและยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่ของบริษัทฯ โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 61
ที่ผ่านมาที่เราได้เข้าไปลงทุน โดยการซื้อกิจการ PCCA เพื่อขยายและแตกไลน์ธุรกิจไปสู่ธุรกิจเครื่องสำอางและสกินแคร์ ขณะเดียวกันยังผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจหลากหลาย โดยจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อขยายเครือข่ายในการเพิ่มช่องทางการขายสินค้า ให้ครอบคลุมผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการก้าวสู่การให้บริการแบบ One Stop Service Solution ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุน
สำหรับผลการดำเนินงาน ประจำงวดไตรมาส 1/62 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 บริษัทฯมีรายได้รวม 123.13 ล้านบาท ลดลง 42.61% กำไรสุทธิ 41.40 ล้านบาท ลดลง 62.77% เมื่อเทียบกับจากงวดเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุที่ผลการดำเนินงานลดลง เนื่องจากบริษัทฯมีแผนในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่ โดยการมุ่งเน้น ขยายไปยังไลน์ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ รวมถึงยังเป็นการขยายช่องทางในการสร้างมูลค่าเพิ่มของรายได้ เข้ามาในบริษัทฯ ทั้งนี้เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอางและสกินแคร์ แบบครบวงจร ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่องทางที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทฯมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ทั้งหมด ซึ่งแผนกลยุทธ์ดังกล่าวจะเห็นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง และจะส่งผลให้ภาพรวมทางธุรกิจของ DOD มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
"ทุกการลงทุนของ DOD ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะไม่เห็นได้ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่เราก็เชื่อว่า การลงทุนในวันนี้ ก็เพื่อที่จะรอวันที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบของผลตอบแทน ด้านรายได้ และ กำไร ในวันข้างหน้า ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการ หว่านพืช เพื่อที่จะหวังผล ซึ่งเชื่อว่าผลผลิตที่จะออกมา เราจะได้เห็นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อย่างมีนัยสำคัญ" น.ส.ศุภมาส กล่าว