นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ปรับขึ้นต่อ กระแสค่อนข้างออกมาในเชิงบวกเพราะข่าวที่นายกรัฐมนตรีแถลงเรื่องเมกะโปรเจกต์จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนช่วยหนุนตลาด
"กลุ่มที่จะได้ประโยชน์คือรับเหมาก่อสร้างและธนาคารพาณิชย์ คือกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากที่นายกฯประกาศจะผลักดันระบบรถไฟฟ้า 9 สาย มูลค่า 5 แสนล้านบาท ถ้าขึ้นไปแนวต้าน 820 จุด ซัพพอร์ตประมาณ 800 จุด" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ตลาดต่างประเทศวันนี้ส่วนใหญ่ปรับขึ้นทั้งหมด เช่น ญี่ปุ่นบวกไป 2.4% ดาวโจนส์ปรับขึ้น sentiment 2 ตัวนี้ที่เข้ามาทำให้ตลาดในช่วงนี้น่าที่จะมีการปรับขึ้นต่อได้
สำหรับเม็ดเงินต่างชาติที่มี net buy เข้ามาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา กลุ่มนี้ก็ยังมีโอกาสที่จะผันผวนได้อีกมาก ถ้าขึ้นแรงมากๆ ก็ต้องระวังเรื่องการถูกขายทำกำไรออกมาด้วยเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นมองที่ 820 จุด น่าจะปรับฐานบ้าง
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์(1 ก.พ.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,743.19 จุด เพิ่มขึ้น 92.83 จุด(+0.73%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,395.42 จุด เพิ่มขึ้น 16.87 จุด(+1.22%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,413.36 จุด เพิ่มขึ้น 23.50 จุด (+0.98%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8,155.50 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ (1 ก.พ.)
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ (1 ก.พ.) ที่ 88.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.79 ดอลลาร์
- 'สมัคร' เร่งเดินหน้าเมกกะโปรเจค ทุ่ม 5 แสนล้านขยายเส้นทางรถไฟ 9 สาย-รถไฟฟ้าทั่วกรุง พร้อมแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ สร้างระบบน้ำไฮโดรชิล ผันน้ำจากแม่น้ำโขงป้อน 19 จังหวัดอีสาน ลั่นเสร็จใน 3 ปี 'สุรยุทธ์' แนะรัฐบาลปรับปรุงนโยบายประชานิยมก่อนนำกลับมาใช้ใหม่
- ภาคเอกชนเปิดโอกาสทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ทำงาน แนะดึงผู้เชี่ยวชาญเสริมทีมปรึกษา พร้อมหารือกับภาคเอกชน เตือนระวังเกิดภาพ 'เกาเหลา' ส่งผลกระทบนโยบาย หลังเดือนเม.ย.ควรมีผลงานฟื้นความเชื่อมั่น โบรกกอร์วอนให้โอกาสรมว.คลัง
- สธ.เผย 'โครงการเมดิคัลฮับ' ทะลุเป้าเฟสแรก รายได้เข้าไทย 2 แสนล้าน ปี 2550 ชาวต่างชาติใช้บริการกว่า 1.5 ล้านคน โรงพยาบาลเอกชน 5 แห่งส่งไทยติดท็อปประเทศนิยมแห่ใช้บริการทางการแพทย์มากที่สุดในโลก ชาวญี่ปุ่นใช้บริการสูงเป็นอันดับ 1 รองมาเป็นสหรัฐ บังกลาเทศ อังกฤษ ขณะที่โรงพยาบาลแพทย์ ศิริราช ราคาธิบดี เตรียมเปิดให้บริการดึงเทคโนโลยีและผู้ป่วยต่างชาติตามเอกชน
- ปลัดคลัง เล็งจัดทำงบปี 2552 ตั้งขาดดุล 1.6 แสนล้านบาท รองรับรายจ่ายเพิ่มขึ้นตามกรอบรัฐธรรมนูญและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล เดินหน้าโครงการขนาดใหญ่หนุนเลิกมาตรการสำรอง 30% เหตุทำให้ตลาดเงินบิดเบือน
- 'ตีรณ' ประเมินภาวะถดถอยในสหรัฐ จะยืดเยื้ออย่างน้อย 2 ปี แนะรัฐบาลไทยลดภาษีเงินได้-ภาษีนิติบุคคล แก้ปัญหาเศรษฐกิจจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐ เหตุนโยบายการเงินมีข้อจำกัด จากความแปรปรวนในตลาดเงินโลกมากขึ้น ชี้หน้าที่แบงก์ชาติทำได้เพียงให้อัตราดอกเบี้ยมีเสถียรภาพอย่าผันผวนไปตามสภาพคล่องที่แปรปรวน เหตุการลดอัตราดอกเบี้ย 1-2%
ไม่ช่วยแก้ปัญหาค่าเงินที่แข็งค่ากว่า 10-15% ได้
- เศรษฐกิจซบแบงก์หันตัดราคาแย่งฐานสินเชื่อเอสเอ็มอี กรุงศรีฯ-ทหารไทย เสียท่าโดนฉกลูกค้าจากแบงก์ใหญ่ หวั่นภายใต้เกณฑ์บาเซิล 2 การแข่งขันในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี อาจกระทบเงินกองทุนได้ แบงก์กรุงเทพรับสินเชื่อรีไฟแนนซ์มีสัดส่วนถึง 30% ส่งผลมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม 1% ขณะที่กสิกรรับรีไฟแนนซ์กว่า 60%
- รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ผ่านมา นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการ กฟผ. ได้รับทราบรายงานภาพรวมการผลิตไฟฟ้า ปี 2550-2551 โดยในเบื้องต้นพบว่าแนวโน้มค่าไฟฟ้าในปี 2551 จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นจากราคาก๊าซธรรมชาติ ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน
- นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้อำนวยการส่วนนโยบายระบบการเงิน สำนักนโยบายระบบการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกพันธบัตร ธปท. เป็นจำนวนกว่า 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการแทรกแซงค่าเงินบาท และเหลือวงเงินออกพันธบัตรอีกเพียง 1 แสนล้านบาท ก็จะเต็ม วงเงินพันธบัตร ธปท. ของกระทรวงการคลังไว้
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--