นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 มีทิศทางดีกว่าไตรมาสแรกที่น่าจะทำกำไรได้ในระดับหลักร้อยล้านบาท เนื่องจากขณะนี้ค่าการกลั่น (GRM) ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับระดับ 3-4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 1/62 แม้ว่ายังต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้ระดับ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังเข้าสู่ฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐและยุโรปส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินดีขึ้น อีกทั้งความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ
ทั้งนี้ บริษัทให้ความร่วมมือส่งเสริมการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ด้วยการจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 ซึ่งมีส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) 20% ในน้ำมันดีเซล โดยที่ผ่านมาได้จำหน่ายให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม รถและเรือขนส่ง และล่าสุดเปิดจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อรองรับรถขนส่งขนาดใหญ่ ทำให้ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่าย B20 แล้ว 174 แห่ง และตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็นเกือบ 200 แห่งภายในปีนี้
ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจะใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทปรับหอกลั่นโรงงาน B100 ในจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ผลิต B100 ให้มีความบริสุทธิ์มากขึ้นตามมาตรฐานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (JAMA) ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิต B100 เพิ่มขึ้นกว่า 1 บาท/ลิตร แต่ก็จะสามารถรองรับการใช้สำหรับเป็นส่วนผสมระดับ 10% ในน้ำมันดีเซลเพื่อผลิตเป็น B10 ที่เร็ว ๆ นี้กระทรวงพลังงานเตรียมประกาศให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐาน แทน B7 ที่จะเปลี่ยนเป็นเกรดพรีเมียม ซึ่งบริษัทก็พร้อมจำหน่าย B10ตามนโยบายของภาครัฐ เพราะปัจจุบันค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นรับรองการใช้ B10 ได้