นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE ) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป จะเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) กลับสู่ภาวะปกติที่ระดับ 20% ได้ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 16% โดยบริษัทเน้นกลยุทธ์ปรับลดต้นทุนด้านการขนส่งของ WICE Logistics (Hong Kong) Ltd. หรือ WICE HK ก่อน ทั้งการลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง บริหารจัดการเส้นทางขนส่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมไปถึงป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนของค่าเงิน
อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าภาพรวมธุรกิจช่วงไตรมาส 2/62 จะปรับตัวดีขึ้น ตามความต้องการใช้งานโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น จากแนวโน้มการนำเข้าและส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิค และกลุ่ม Auto Part มีปริมาณงานเพิ่มมากขึ้น และเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นซึ่งจะยาวต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี
อีกทั้ง ภายหลังจากการเปิดสำนักงานใหม่ที่เซินเจิ้น บริษัทเตรียมรับรู้รายได้จาก WICE Logistics (Shenzhen) Company Ltd. หรือ WICE SZ เข้ามาในไตรมาส 2/62 ทันที หลังจากก่อนหน้านี้ WICE HK จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับหุ้นส่วนชาวจีน และได้ทำสัญญากับบริษัท Universal Express Star Company Ltd. (UES) เพื่อซื้อธุรกิจทั้งหมดและโอนธุรกิจไปยัง WICE SZ โดยรายได้เดิมที่ UES ทำไว้ประมาณปีละ120 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้าในแหลมฉบังใช้พื้นที่ไปแล้วกว่า 70% ของพื้นที่รวม 1.7 หมื่นตารางเมตร ปัจจุบันบริษัทเตรียมต่อสัญญาลูกค้าเดิมเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นลูกค้าผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์และผู้ผลิตโรงงานกระจกรายใหญ่ เพื่อรับงานหาพื้นที่คลังสินค้าให้ลูกค้า และงานบริหารจัดการแบบ Onsite service ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นตาม ทั้งนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงกลางปี 62
ด้านงานขนส่งข้ามชายแดน (Cross border) ระหว่างประเทศจีน ฮ่องกง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามเส้นทาง One Belt One Road ของจีน โดยการบริหารงานของบริษัทร่วมทุน EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO., LTD. (ETL) ปัจจุบันมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทได้มีการลงทุนสั่งต่อตู้ Double Rack ตู้แบบต่อกันได้ เพื่อรองรับสินค้าแบบไม่เต็มตู้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ต้องการขนส่งสินค้าจำนวนไม่มาก โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในกลางปี 62 อีกทั้งบริษัทได้เริ่มเปิดตลาดใหม่ ในการรับขนส่งสินค้าประเภทแช่แข็ง เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/62 บริษัทมีรายได้รวม 482.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 387.18 ล้านบาท จำนวน 95.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.74 % และมีกำไรสุทธิ 11.65 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 18.61 ล้านบาท จำนวน 6.96 ล้านบาท หรือลดลง 37.40%
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าการชะลอตัวของผลประกอบการดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการเติบโต เนื่องจากเป็นผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น จึงมั่นใจว่ารายได้รวมทั้งปี 62 จะเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ 25% ถือเป็นการสร้างสถิติการเติบโตสูงสุดต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากกลยุทธ์ขยายธุรกิจแบบ Organic จากปริมาณงานบริการทุกประเภท และการเติบโตแบบ Inorganic จากการที่บริษัทลงทุนขยายโครงข่ายไปทั่วเอเชีย โดยในปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการดำเนินงานของทุกสาขาเข้ามาเต็มปี ซึ่งยังไม่นับรวมบริษัทร่วมทุน WICE SZ