นายสุนทร เด่นธรรมดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท ดีพสปาร์คส์ จำกัด (DeepSparks) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ประมวลผลความแม่นยำ และประเมินความเชื่อถือของผู้ใช้บริการในเครือบริษัท ทีทูพี จำกัด และบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชั่นทางด้าน Fintech และการลงทุนในธุรกิจ started-up รวมถึงบริษัท เจ ฟินเทค จำกัด (JFINTECH) ผู้ให้บริการทางด้านสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้แบรนด์ เจมันนี่ (J MONEY) ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์ม "เต็มใจเพย์" เพื่อให้บริการสินเชื่อสวัสดิการแก่พนักงานและลูกจ้างของบริษัทที่ใช้บริการของ Humanica ให้สามารถนำเงินมาใช้เมื่อจำเป็น โดยคาดแพลตฟอร์มนี้จะเริ่มให้บริการในเดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นบริการเสริมให้กับพนักงานของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้พนักงานมีเงินใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน หรือในช่วงสั้นๆ โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ หรือต่ำกว่า 15% ต่อปี
ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าองค์กรจำนวน 400-500 บริษัท ซึ่งคิดเป็นจำนวนพนักงานประมาณ 300,000 ราย โดยเบื้องต้นจะเริ่มคัดเลือกบริษัทที่มีศักยภาพเพื่อทดลองการให้บริการแพลตฟอร์มดังกล่าว และคาดว่าในไตรมาส 4/62 หรือต้นปีหน้า จะสามารถเห็นการเข้ามาใช้บริการฯ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ก็คาดว่า เต็มใจเพย์ จะเป็นอีกหนึ่งบริการที่จะช่วยขยายฐานลูกค้าในอนาคตด้วย
ในเรื่องของส่วนแบ่งรายได้ที่จะมาจากค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ยต่างๆ นายสุนทร คาดว่า สำหรับในปีนี้น่าจะยังไม่มากนัก เนื่องจากเป็นการทดลองให้บริการ แต่น่าจะเห็นผลในอนาคต จากปัจจุบันคนไทยทุกระดับ หรือระดับเงินเดือนขั้นต่ำ ถึงหลักแสนมีหนี้ค่อนข้างสูง ซึ่งบริการนี้จะช่วยค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้
นายสุนทร กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจากับสถาบันการเงินในประเทศจำนวน 3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายไตรมาส 2/62 ทั้ง 3 ราย โดยปัจจุบันการเจรจามีความคืบหน้าต่อเนื่องไปหลายขั้นตอนแล้ว โดยจะมีการออกโปรดักส์เกี่ยวกับสินเชื่อสวัสดิการพนักงานรูปแบบใหม่ร่วมกัน หลังร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 10-15% ซึ่งบริษัทดูแลด้านดาต้า และการผ่อนชำระ (ตัดบัญชี) ส่วน SCB เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อ
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ คาดกำไรสุทธิจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% และรายได้จะเติบโตไม่เกิน 20% จากการออกโปรดักส์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่มาใช้บริการด้านทรัพยากรบุคคล (HR Solution) และด้านบริหารจัดการ บัญชีและการเงิน (Financial Solution) ซึ่งตั้งเป้ามีฐานลูกค้าองค์กรเพิ่มราว 50,000 ราย และจะมีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 ราย
อย่างไรก็ตามในปีนี้เป็นปีแห่งการปรับโครงการสร้างของธุรกิจ โดยเชื่อว่าในปี 63 บริษัทฯ จะมีรายได้ และกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดแน่นอน ตามการเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุน
สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/62 จะมีการเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/62 เป็นปกติอยู่แล้ว โดยคาดเห็นการควบรวมและการซื้อกิจการ (M&A) บริษัทด้านซอฟต์แวร์ รายใหญ่ 1 ราย ในไตรมาส 2/62 ซึ่งบริษัทดังกล่าวถือเป็นบริษัทที่ตั้งมานาน 20 ปี มีผลการการดำเนินงานที่คงที่และมีกำไร คาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท
ด้านนายกิตติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ ฟินเทค จำกัด (J FINTECH) กล่าวว่า บริษัทฯ วางวงเงินปล่อยกู้ไว้ที่ 80 ล้านบาทต่อเดือน และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 15% ปี โดยรูปแบบกระบวนการการขอสินเชื่อจะอยู่ในแอพพลิเคชั่น เต็มใจเพย์ ทั้งหมด ตั้งแต่การลงทะเบียน การยืนยันตัวตน การขอสินเชื่อ และการตรวจสอบสถานะต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะมีการปล่อยสินเชื่อตามฐานเงินเดือนของแต่ละบุคคล โดยลูกค้าจะได้รับเงินภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที และจะมีการหักเงิน พร้อมดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน ผ่านบัญชีเงินเดือนของบริษัท ซึ่งจะทำให้ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) แม้ในกรณีที่พนักงานมีการลาออกกระทันหันโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เงินเดือนก็จะเข้าระบบทุกเดือนอยู่แล้ว ทำให้สามารถหักได้ทันที