นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 บริษัทมีรายได้รวม 852.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.4% เมื่อเทียบจากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 97.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.11% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ 4 โครงการ มูลค่ารวม 669.98 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่าภาพผลประกอบการในอนาคตของ ALL หลังจากนี้ต่อไปจะมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเป้าหมายในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ
ในช่วง 3 ปีจากนี้ (ปี 62-64) บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจะทยอยรับรู้ยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีในมืออย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมีโครงการที่รอการขายและแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตอีกหลายโครงการ โดย ณ สิ้นเดือน มี.ค.62 มียอดขายรอโอนในมือมูลค่ารวม ประมาณ 7,200 ล้านบาท จาก 13 โครงการในมือ ซึ่งในปี 62 บริษัทจะทยอยรับรู้ประมาณ 60-70% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 66
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสินค้าเหลือขาย (Inventory) ในมือมูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าพร้อมโอนภายในปีนี้ ประมาณ 40% ซึ่งจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ทันทีหลังการขาย
ส่วนแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 62 บริษัทตั้งเป้าหมายจะเปิดตัว 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 18,250 ล้านบาท เน้นพื้นที่ศักยภาพเกาะแนวระบบขนส่งมวลชนระบบรางทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) ในรัศมี 1-2 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงการออกแบบด้วยความทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ เน้นฟังก์ชันการใช้งาน พื้นที่ใช้สอย พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งแวดล้อมที่ดี มุ่งเน้นการอยู่อาศัยได้จริงในราคาที่จับต้องได้
ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนการขายโครงการระหว่างลูกค้าต่างประเทศและลูกค้าภายในประเทศ ซึ่งมีนโยบายขายให้ลูกค้าต่างประเทศ ในสัดส่วน 30-40% เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดให้บริษัทหลังการขาย ซึ่งบริษัทสามารถเก็บเงินดาวน์ได้ทันที 30% ของราคาขายจากลูกค้าต่างชาติ เป็นกระแสเงินสดเข้ามาในบริษัททันที ส่วนที่เหลืออีก 70% ลูกค้าต่างชาติ มักโอนด้วยเงินสด ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องยอดปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในโมเดลทางการเงินของบริษัทที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และสามารถเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อขยายกิจการได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในอนาคต