นายบัลลังก์ ไวยานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ดูแลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 3-5% จากเดิมที่คาดเติบโต 5% โดยเป็นผลมาจากราคาขายที่ลดลง หลังราคาวัตถุดิบในการผลิตลดลง โดยในช่วงไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมาราคากุ้งปรับตัวลดลง 8.6% และราคาปลาทูน่าปรับตัวลดลง 8% และอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินยูโร (ERU) อ่อนค่าลง 7-8% ซึ่งสัดส่วนรายได้ที่มาจากสกุลเงินยูโรอยู่ที่ 28%
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 15% ได้ ซึ่งสูงกว่าปีก่อน 14.17% โดยบริษัทได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปริมาณการขายที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วย
"แม้ว่าเราจะปรับเป้าหมายของรายได้ใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายที่ลดลงตามราคาวัตถุดิบ และอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินยูโรที่ลดลงถึง 7-8% แต่อย่างไรก็ตามปริมาณการขายยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราจึงมั่นใจว่าจะมีการเติบโตโดยเฉพาะในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นที่จะยังรักษาให้สูงกกว่าปีก่อนได้"นายบัลลังก์ กล่าว
สำหรับสงครามทางการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศสหรัฐฯและจีนนั้น มองว่าเป็นผลกระทบในด้านดีมากกว่า เนื่องจากคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ จะเข้าไปยังอุตสาหกรรมอาหารทะเล นอกประเทศจีนมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์ในด้านดีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันด้วย