นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 2/62 จะดีขึ้นจากไตรมาส 1/62 ที่ทำได้ 1.12 หมื่นล้านบาท หลังเตรียมจะเปิด 17 โครงการใหม่ มูลค่า 2.24 หมื่นล้านาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 8 โครงการ บ้านเดี่ยว 7 โครงการ และโครงการพรีเมียม 2 โครงการ รวมถึงจะการกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทาง E-Commerce ที่ร่วมกับ Shopee โดยให้ลูกค้าจองบ้านเพียง 6 บาท จากปกติ 10,000-12,000 บาท ซึ่งจะนำโครงการมาเข้าร่วมทั้งหมด 547 ยูนิตในทุกระดับราคา และที่อยู่อาศัยทุกประเภท โดยคาดว่าลูกค้าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ขณะที่ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2/62 จะยังคงเผชิญกับความท้าทายหลังมาตรการการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอ อีกทั้งยังมีวันหยุดมากกว่าปกติทำให้การขายในช่วงไตรมาส 2 นี้ จะต้องกลับมาเร่งขึ้นในช่วงกลางเดือนพ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะต้องมีการทำงานกันอย่างหนักของทีมงานในบริษัทเพื่อกระตุ้นยอดขายให้กลับมาฟื้นตัวขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 บริษัทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสร้างความเป็เลิศทางการขาย (Sales Excellence) เป็นการยกระดับขีดความสามารถการขายให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยธุรกิจใหม่ "DEAL" ให้บริการด้านการซื้อ ขาย เช่า ที่อยู่อาศัย เป็นการนำ Digital Platform มาใช้พัฒนาระบบ AI Macthing เพื่อเลือกที่อยู่อาศัยให้ตรงใจกับความต้องการของลูกค้า พร้อมจัดทำระบบการบริหารจัดการยูนิตซื้อขาย บริหารข้อมูลต่าง ๆ ที่จะสามารถดึงข้อมูลได้แบบ Real-Time ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากเดิมที่มีช่องทางการขายผ่านโบรกเกอร์กว่า 3,000 คน, B2B และ Pruksa Member
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้เปิดตัวแบรนด์พรีเมียมน้องใหม่ "CHAPTER" เมื่อต้นเดือนพ.ค. ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 62 บริษัทเตรียมนำแบรนด์ IVY กลับมาพลิกโฉมใหม่ พร้อมชูสเปกวัสดุและงานดีไซน์การออกแบบภายในโครงการอย่างเหนือชั้น ซึ่งจะเป็นการยกระดับโครงการคอนโดมิเนียมอีกขั้นของบริษัท
ทั้งนี้ แผนกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายที่ 5.4 หมื่นล้านบาท และมีรายได้ 4.7 หมื่นล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/62 มียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 3.24 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนในปี 62-64 โดยในช่วงที่เหลือของปี 62 จะทยอยโอน 1.78 หมื่นล้านบาท ส่วนในปี 63 จะทยอยโอน 7.23 พันล้านบาท และในปี 64 จะทยอยโอน 7.37 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทมีสินค้าพร้อมโอนที่เป็นสต็อก มูลค่ารวม 1.47 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว มูลค่า 2.87 พันล้านบาท ทาวน์เฮาส์ มูลค่า 5.76 พันล้านบาท คอนโดมิเนียม มูลค่า 5.59 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียมในกลุ่มพรีเมียม มูลค่า 487 ล้านบาท
นางสุพัตรา กล่าวว่า สำหรับยอดขายในไตรมาส 1/62 ที่ทำได้เพียง 1.12 หมื่นล้านบาทนั้น คาดว่าจะเป็นยอดขายต่ำสุดรายไตรมาสในปีนี้แล้ว เนื่องจากมีการเปิดโครงการไม่มากเพียง 5 โครงการ มูลค่ารวม 6.25 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามในด้านของรายได้ นับว่าเติบโต 44% มาที่ 1.19 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิเตบโต 96% มาที่ 1.69 พันล้านบาท