(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: ข่าวริโอ ทินโตดัน S&P/ASX 200 ปิดบวก 24.5 จุด

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการสูงขึ้นในวันนี้ (4 ก.พ.) เนื่องจากตลาดให้ความสนใจกับข่าวความเป็นไปได้ในการซื้อกิจการของบริษัท ริโอ ทินโต ซึ่งความสนใจนี้ได้บดบังความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และฤดูรายงานผลประกอบการในออสเตรเลียที่ใกล้จะมาถึง
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดบวก 24.5 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 5,867.4 จุด ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 1.83 พันล้านหุ้น มูลค่า 6.67 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
          จัสติน กัลลาเกอร์ หัวหน้าฝ่ายเทรดดิ้งของเอบีเอ็ม แอมโร กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวในแวดวงธุรกิจเหมืองแร่ได้มีส่วนช่วยผลักดันตลาด
          หุ้นริโอทินโตได้รับความสนใจในการซื้อขายช่วงเช้า หลังจากที่บริษัท อลูมิเนียม คอร์ป ออฟ ไชน่า หรือ ชาลโค และบริษัทเหมืองของสหรัฐอย่างอัลโค อิงค์ ได้จับมือกันซื้อหุ้นริโอ ทินโต จำนวน 12% แซงหน้าบีเอชพี บิลลิตันที่ได้ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นในสัดส่วน 3 ต่อ 1 ให้กับริโอ ทินโตไปก่อนหน้านี้ 
          บีเอชพีมีเวลาจนถึงวันพุธที่จะถึงนี้ เพื่อที่จะสรุปข้อเสนอหรือถอนตัวจากการทำข้อตกลง
          หุ้นริโอทินโตปิดบวก 77 เซนต์ หรือ 2% ส่วนหุ้นบีเอชพี ปิดบวก 80 เซนต์ หรือ 0.6%
          นายเสี่ยว ยาฉิง ประธานบริษัทไชน่าอัลโค กล่าวในการแถลงข่าวที่ซิดนีย์ว่า การซื้อหุ้นริโอ ทินโตครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และบริษัทเองก็ไม่มีแผนที่จะซื้อหุ้นในบริษัท ริโอ ทินโต มากกว่านี้ และยังได้ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องผลการสรุปเรื่องข้อเสนอซื้อหุ้นมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ในบริษัทริโอ ซึ่งได้รับการปฏิเสธไปแล้วโดยบอร์ดของริโอ เนื่องจากบอร์ดไม่พอใจกับมูลค่าหุ้นที่บีเอชพีเสนอมา
          ในการซื้อขายช่วงบ่าย นักลงทุนได้หันมาให้ความสนใจกับเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งมีการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายประการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐที่ลดลง 17,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกในตลาดแรงงานของสหรัฐในรอบกว่า 4 ปีที่ผ่านมา 
          นอกจากนี้ สถาบันบริหารอุปทานสหรัฐยังได้รายงานดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตที่ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 50.7 ในเดือนม.ค. จากระดับ 48.4 ในเดือนธ.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีจะอยู่ที่ 47 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงการชะลอตัวในภาคการผลิต
          หุ้นกลุ่มธนาคารของออสเตรเลียยังคงอ่อนตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางออสเตรเลียจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันอังคารนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 7% เพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
          หุ้นคอมมอนเวลท์แบงค์ร่วง 4.2% หุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ตกลง 3.4% และหุ้นเอเอ็นแซท ขยับลง 0.7%