น.ส.ทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารการลงทุนและการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้อนุมัติการลงทุนในธุรกิจเงินร่วมทุน (Venture Capital : VC) หรือ ธุรกิจสตาร์ทอัพ จำนวน 4 บริษัท คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวม 125 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำดิวดิลิเจนซ์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ อีกทั้งก็อยู่ระหว่างการพิจารณาการลงทุนอีกหลายบริษัท โดยยังคงเป้าเข้าลงทนในธุรกิจ VC จำนวน 7 บริษัทในปีนี้ และวางงบลงทุนไว้ที่ 200 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งมีเงินสดในมืออยู่ที่ 1,800 ล้านบาท หากมีการลงทุนเพิ่มเติมก็สามารถทำได้
สำหรับธุรกิจที่เข้าลงทุน ยังคงอยู่ในกลุ่ม Telecom, Media , Technology (TMT) และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ เช่น Artificial Intelligence (AI), Internet of Things (IoT) ,Blockchain Data Analytics และแสวงหาการลงทุนที่ต่อยอดการเกิดขึ้นของ 5G ในอนาคต
ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของบริษัทมีจำนวนทั้งสิ้น 13 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 540 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าลงทุนตั้งแต่ปี 55 ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็น 928 ล้านบาท เติบโตกว่า 100%
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจ TMT ซึ่งจะมีขนาดการลงทุนที่สูงกว่า VC เช่นเดียวกันกับก่อนหน้านี้ที่บริษัทฯ มีการเข้าลงทุนใน ไฮ ช็อปปิ้ง (High Shopping) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า คาดว่าปีนี้ผลการดำเนินงานจะถึงจุดคุ้มทุน โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 51% และฮุนได โฮมช็อปปิ้ง ถือหุ้นในสัดส่วน 49%
อย่างไรก็ตามธุรกิจอื่นคิดเป็นสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 2-3% ของรายได้รวม
ด้านภาพรวมธุรกิจในปีนี้ก็คาดว่ารายได้น่าจะลดลงเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 20,404.50 ล้านบาท เป็นไปตามธุรกิจไทยคม ที่คาดว่ารายได้จะปรับตัวลงเล็กน้อยจากปีก่อน จากรายได้ธุรกิจดาวเทียมที่ลดลง เป็นผลการชะลอตัวของอุตสาหกรรมดาวเทียมบรอดคาสต์ในทั่วทุกภูมิภาค ส่งผลให้อัตราการใช้งานและราคาค่าเช่าช่องสัญญาณลดลง
ขณะที่ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ที่บริษัทมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนตามสัดส่วน 40.45% แม้ไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมากำไรจะลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ทั้งปีผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตที่ 4-6% และ EBITDA Margin น่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 43.4%