นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดเผยว่าผลการดำเนินของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 204.17 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 110.76 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้รวม ในไตรมาส 1/62 ที่เพิ่มขึ้นเป็น 6,829.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 6,675.54 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนขายในไตรมาส 1/62 เท่ากับ 6,080.19 ล้านบาท ลดลงจาก 6,294.45 ล้านบาทในงวดปีก่อน จากราคาไก่และสุกรที่ปรับตัวสูงขึ้น และความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นเป็น 10.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3.47%
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 ที่เติบโตอย่างโดดเด่น ได้รับอานิสงส์จากการปรับช่องทางจำหน่ายขายทั้งในและต่างประเทศเพื่อเข้าสู่ช่องทางที่มีกำไรดีขึ้น หลังจากที่บริษัทฯพยายามเจาะตลาดใหม่ๆ เข้าไปบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีดีมานด์เป็นจำนวนมาก หนุนธุรกิจเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้และกำไร ในปีนี้สร้างสถิติสูงสุดใหม่"
โดยในส่วนของรายได้จากธุรกิจไก่ในช่วงไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 3,893.56 ล้านบาท ลดลง 9.50% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 4,302.50 ล้านบาท ธุรกิจสุกรมีรายได้รวม 1,733.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.59% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,289.22 ล้านบาท ธุรกิจอาหารสัตว์ และอื่นๆ มีรายได้รวม 1,102.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.71% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 928.89 ล้านบาท และรายได้อื่นๆอยู่ที่ 58.93 ล้านบาท ลดลง 61.96% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 154.93 ล้านบาท
"เราให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ลดต้นทุนจากการบริหารจัดการให้ดีขึ้น เช่น การบริหารจัดการ การเก็บสินค้าคงเหลือ การบริหารจัดการระบบการขนส่ง การจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทฯยังลดต้นทุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพของไลน์ผลิตจากการลงทุนในเครื่องจักร Automation ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมี Cost Saving เกิดขึ้นจากการดำเนินการและเริ่มเห็นผลตั้งแต่ต้นปี 2562"
ขณะเดียวกันธุรกิจอาหารสัตว์ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น หลังจากที่บริษัทฯได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อขายให้กลุ่มลูกค้านอกเครือมากขึ้น โดยปัจจุบันมีปริมาณขายนอกเครือเพียง 20% และตั้งเป้าในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้าสัดส่วนขายนอกเครือจะเพิ่มขึ้นเป็น 50%
ที่ผ่านมา TFG ได้มีการขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขีดความสามารถการแข่งขัน รองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ ในส่วนของโรงฟักลูกไก่ ที่ได้ขยายการลงทุนในปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตลูกไก่ได้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มผลผลิต จากแม่สุกร ที่สามารถผลิตลูกสุกรได้มากขึ้น และการสูญเสียที่น้อยลง จากการนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาใช้ ส่งผลให้สามารถส่งลูกไก่ และลูกสุกร ป้อนตลาดได้มากขึ้น