THAI คาดปี51 รายได้ค่าโดยสารโต 10%,cargo 2-3 หมื่นลบ./Cabin Factor 80%

          นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่  สายการพาณิชย์  บมจ.การบินไทย (THAI) คาดว่าในปี 51 รายได้ค่าโดยสารจะเติบโตประมาณ 10% จากปี 50 ที่มีรายได้ 1.74 แสนล้านบาท และรายได้จากการขนส่งสินค้า (Cargo) จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท บริษํทมีเป้าหมายผลักดันอัตราส่วนการขนส่ง(Cabin factor)ให้สูงถึงระดับ 80% จากปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 77% 
          "เราจะพยายามผลักดันค่าเฉลี่ยเส้นทางบินในประเทศให้เติบโตเพิ่มมากขึ้นและรักษา ระดับเคบินของภูมิภาค และระยะไกลไว้...ทำให้รายได้รวมทั้งกลุ่มเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ประมาณ 2.1-2.2 แสนล้านบาท" นายปานฑิต กล่าว  
          สำหรับเส้นทางบินในประเทศที่เคยประสบปัญหาขาดทุนในบางเส้นทางนั้น หลังจากที่ให้พันธมิตรรับช่วงการบินในบางเส้นทางเพื่อนำเครื่องบินมาบินในภูมิภาคเอชียที่อัตราความต้องการบินสูง ส่งผลให้เส้นทางในประเทศในปี 50 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีก่อนประมาณ 30% 
          "ถือว่าเป็นการปรับตัวที่มาถูกทางของการบินไทยแล้ว" นายปานฑิต กล่าว
          บริษัทยังมีแผนเปิดบินจุดบินใหม่เพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดในวันที่ 15 ก.พ.จะเริ่มบินในเส้นทางกรุงเทพบินตรงเข้าสู่เกาะสมุย 14 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เชื่อว่าจะได้รับความนิยมและน่าจะมีอัตรา cabin factor ที่ระดับ 75% โดยมีจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปี กลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้โดยสารจากสแกนดิเนเวียและยุโรป ที่เป็นลูกค้าของการบินไทยอยู่แล้ว
          และยังทำแคมเปญร่วมซิตี้แบงก์ "เที่ยวเป็นคู่กับทัวร์เอื้องหลวง"ด้วยราคาพิเศษ เริ่มตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 51 เริ่มต้นด้วย 5 ประเทศในเอเชียที่คนไทยนิยมเดินทาง เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ บาหลี ฮานอย และโฮจิมินห์ และหากเป็นสมาชิกบัตรเครดิตซิตี้ รอยัลออร์คิดพลัสจะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 5% 
          การบินไทยเชื่อว่าต่อไปนี้ ธุรกิจการบินคงไม่มีช่วง  Low season แล้ว จากเดิมปกติช่วงไตรมาส 2 จะเป็นช่วง Low season บางเส้นทางอาจมีการทำโปรโมชั่นและปรับราคาลงมา ให้สอดคล้องกับช่วงเวลานั้นๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า
          นายปานฑิต กล่าวว่า ปัญหาการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ คงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทมากนัก เนื่องจากปกติการบินไทยก็มีสัดส่วนตลาดอเมริกาไม่มากนัก ขณะที่ปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกนั้น แม้ระยะนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับลดลงบ้างแล้ว แต่บริษัทคงต้องรอศึกษาแนวโน้มราคาน้ำมันในช่วง 4-6 เดือนก่อนที่จะพิจารณาปรับค่าธรรมเนียมน้ำมันลงจากที่ได้ปรับขึ้นไปเพียง 75% ของอัตราที่กำหนดว่าจะปรับขึ้น ดังนั้นในขณะนี้จึงยังไม่สามารถปรับราคาลงตามราคาน้ำมันในทันทีได้