ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดประมาณการ GDP และการส่งออกของไทยในปีนี้ ท่ามกลางปัญหาสงครามการค้าที่ยังคงยืดเยื้อ กดดันให้มีแรงขายหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดันภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 10.56 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,610.97 จุด ลดลง 10.30 จุด (-0.64%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.05 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,611.05 จุด ลดลง 10.22 จุด (-0.63%)
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด คาดว่าจะเป็นแรง Take profit ของนักลงทุน จากที่มีหุ้นบางตัวได้ปรับขึ้นไปมากแล้ว และส่วนหนึ่งก็มีความวิตกเกี่ยวกับการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนหลังจากที่ผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาด โดยมีหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มพลังงาน ปรับลงนำตลาดฯทำให้มีผลต่อตลาดฯมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่จะอิงไปทางลบมากกว่า โดยยังต้องติดตามความคืบหน้าของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ภายหลังจากที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนบ้านเราก็ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
อนึ่ง เมื่อช่วงเช้าศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 62 โต 3.5% จากเดิมที่คาดโตได้ 3.8% ส่วนส่งออกคาดว่าปีนี้เหลือโต 0.5% จากก่อนหน้าคาดโตได้ 3.9% โดยมีปัจจัยลบจากสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ
พร้อมให้แนวรับ 1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด