นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายจะรักษาอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในช่วงไตรมาส 2-ไตรมาส 3 ปีนี้ ให้อยู่ระดับ 80% ใกล้เคียงกับระดับ 80.3% ในไตรมาส 1/62 แม้ว่าอาจะกระทบกับกำไรต่อหน่วย (Yield) เพราะทุกสายการบินก็ยังแข่งขันด้านราคาอยู่ ทั้งการแข่งขันในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งเป็นช่วงโชว์ซีซั่น ขณะที่บริษัทจะไม่มีการลงทุนใหม่ใน 2 ไตรมาสนี้ ซึ่งทำให้ยังคาดหวังว่าทั้งปี 62 ปีนี้จะสามารถพลิกมีกำไรสุทธิ
"การบินไทยมีข้อจำกัดแต่สิ่งที่รักษาไว้คือคง Cabin Factor ให้ได้ เพื่อให้ Fixed Cost ให้คุ้ม ส่วน Cargo ทยอยจัดการ เริ่มมีผลกระทบจาก Trade War ตั้งแต่ปลายปี 61"นายสุเมธ กล่าว
นายสุเมธ กล่าวว่า ในปี 62 บริษัทได้มุ่งเน้นการสร้างรายได้เสริมภายใต้โครงการ "มนตรา" ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูการบินไทยแบบเร่งด่วน ตลอดจนกลยุทธ์การดำเนินงานอื่น ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งได้เริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ต้นปี โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือทำให้การบินไทยหลุดพ้นจากวงจรของกับดักปัญหา และสามารถมีผลประกอบการที่มั่นคงต่อไปในอนาคต โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ บูรณาการด้านบริหารจัดการการบินไทยและไทยสมายล์ การบริหารจัดการด้านการขายและการตลาด หารายได้เสริม และเพิ่มรายได้ในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับการบิน เป็นต้น
โดยการบินไทยได้หารายได้เสริมที่เป็นธุรกิจไม่เกี่ยวเนื่องการบิน ในระหว่างที่ยังไม่สามารถขยายการเติบโตของรายได้จากตั๋วโดยสาร ได้แก่ ครัวการบิน ซึ่งได้ตั้งเป้ารุกตลาดมากขึ้น โดยในไตรมาส 1/62 สามารถทำกำไรได้ 70 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวธุรกิจ E-Commerce ที่คาดจะเริ่มในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ ซึ่งจะจำหน่ายผ่านเว็บไซด์การบินไทยและแอพพลิเคชั่นบนมือถือ โดยลูกค้าเป้าหมายเป็นลูกค้าการบินไทยกว่า 20 ล้านคน บริษัทคาดว่าจะมีกำไรปีละ 100-500 ล้านบาท
"รายได้เสริมจึงมีความจำเป็นในช่วง 2-3 ปีนี้ ธุรกิจ E-Commerce เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนอะไร เราทำตัวเป็น Market Place"