นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตันกรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2562 คาดว่าจะดีต่อเนื่องตามฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน และมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ ได้แก่ เย็นเย็นฟัน น้ำจับเลี้ยงผสมวุ้นมะพร้าวเฉาก๊วย และน้ำเก๊กฮวยรสน้ำผึ้งผสมวุ้นมะพร้าว, อิชิตันชิวชิว น้ำชาเขียวผลไม้ ผสมวุ้นมะพร้าว 2 สูตรใหม่ รสองุ่นเคียวโฮ และไลม์ ฮันนี่ และ ชิซึโอกะ โฮจิฉะ ชาเขียวคั่วพรีเมี่ยม นำเข้าใบชา 100% จากประเทศญี่ปุ่น ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 12% จากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 5,216.2 ล้านบาท
"ในช่วงที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดชาเขียวในประเทศชะลอตัว และมีการแข่งขันที่รุนแรง เราจึงงัดกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายอย่างเต็มกำลัง รวมถึงการรุกตลาดส่งออกไปยัง CLMV ซึ่งเป็นผลสำเร็จ ในไตรมาส 1 ปีนี้ เรามีสัดส่วนส่งออกในปัจจุบันอยู่แล้วที่ 32.4% ของรายได้จากการขาย ขณะที่อิชิตันอินโดนีเซียได้รับการตอบรับที่ดี มีการออกสินค้าใหม่กระตุ้นตลาด และสร้างการรับรู้ในแบรนด์อย่างต่อเนื่อง"นายตัน กล่าว
สำหรับผลการดำเนินในไตรมาส 1/62 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 114.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 247.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 8.7% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.5% ในงวดปีก่อน เนื่องจากมุ่งเน้นบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการผลิต การตลาด ประกอบกับแผนการรุกตลาดส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย ด้านบริษัทย่อย อิชิตัน อินโดนีเซีย มีส่วนแบ่งขาดทุนลดลง สะท้อนผลประกอบการของ ICHI ในปีนี้ให้แข็งแกร่ง
บริษัทมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,319.4 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยราว 0.2 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยอิชิตัน ได้ปรับกลยุทธ์โครงสร้างบริหารสินค้าในแต่ละแบรนด์ และการออกสินค้าใหม่กระตุ้นตลาด คาดจะสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงต่อจากนี้ให้เติบโตขึ้น
ขณะที่บริษัทมีต้นทุนขายอยู่ที่ 1,060.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายเท่ากับ 80.4% จากต้นทุนขายในงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,095.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วน 82.9% ของรายได้จากการขาย โดยปรับลดลง 2.5% เนื่องจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ต้นทุนการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 95.5 ล้านบาท เทียบกับงวดดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 141.6 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่ายต่อยอดขายในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 7.2% ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10.7% เนื่องจากบริษัทมีการวางแผนการใช้โฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้าในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 6.4 ล้านบาท ลดลง 24.9 ล้านบาท เทียบกับงวดไตรมาส 1/2561 อยู่ที่ 31.3 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายทางการตลาดในประเทศอินโดนีเซีย และสะท้อนภาพรวม บริษัทย่อย อิชิตัน อินโดนีเซีย มีแนวโน้มเติบโตขึ้น