นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระมัดระวังมากขึ้น โดยในต่างประเทศคือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่ง 2 ประเทศมหาอำนาจถือเป็นคู่ค้ารายสำคัญของไทย อาจเป็นความเสี่ยงต่อผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกของไทยได้ในระยะถัดไป
ที่ผ่านมาธนาคารมีคำแนะนำให้กับลูกค้า เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ด้วยการขยายตลาดใหม่ๆ รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และการใช้ตราสารเครดิต (L/C) เพื่อรับมือความเสี่ยงจากคู่ค้าในต่างประเทศ
สำหรับความเสี่ยงในประเทศ ต้องติดตามคือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่าจะเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในทิศทางใด แต่สิ่งที่กังวลคือความสามารถทำธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายเล็ก เริ่มมีความเสี่ยงจากผลกระทบการชะลอเศรษฐกิจภาพรวม และหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น มีโอกาสเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง เป็นสิ่งที่ธนาคารเฝ้าระมัดระวังอย่างใกล้ชิด
นายสารัชต์ กล่าวว่า ธนาคารมีการคุมเข้มคุณภาพสินเชื่อใหม่มาต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ ,เอสเอ็มอี และรายย่อย โดยปัจจุบันยังคงเป้าสินเชื่อรวมปีนี้จะเติบโต 5-7% แม้ว่ากลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเติบโตในอัตราชะลอตัวจากที่เคยเติบโตโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา แต่ธนาคารปรับกลยุทธ์มารุกขยายกลุ่มสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อภาคธุรกิจรายย่อยแทน ที่ยังมองว่ามีแนวโน้มการเติบโตได้ดี
"ที่ผ่านมาธนาคารคุมเข้มปล่อยสินเชื่อมาตลอด เพื่อควบคุมหนี้ NPL ให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ซึ่งปัจจุบันยังรักษาระดับหนี้ NPL ไว้ได้ดี แต่ในช่วงที่เหลือของปีเราเฝ้าระวังในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯรายเล็ก เพราะเป็นทราบกันดีว่าหนี้ครัวเรือนเริ่มมีสัญญาณสูงขึ้นเรื่อยๆ"นายสารัชต์ กล่าว