นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง หากออกมาต่ำก็จะเป็นลบต่อตลาดฯ อีกทั้งปัจจัยแวดล้อมนอกประเทศขณะนี้ก็ยังเป็นลบอยู่ โดยเฉพาะกรณีของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ หลังจากที่กูเกิลได้ประกาศระงับ การทำธุรกิจกับหัวเว่ยก่อนหน้านี้ ทำให้ยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนต่อไป ซึ่งก็ยังไม่รู้จะมีการนัดคุยกันอีกเมื่อไร
อนึ่ง ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามธุรกิจสหรัฐร่วมงานกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เป็นการชั่วคราว โดยอนุญาตให้มีการอัพเดทซอฟท์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานโทรศัพท์ของหัวเว่ยได้ โดยการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวจะมีผลจนบังคับใช้จนถึงวันที่ 19 ส.ค.นี้ และการประกาศยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าวเป็นการชั่วคราวนั้น ทำให้กูเกิลยังคงสามารถร่วมงานกับหัวเว่ยได้ต่อไป และหัวเว่ยก็จะสามารถใช้ระบบแอนดรอยด์ได้เหมือนเดิมจนถึงวันที่ 19 ส.ค.
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก และลบ หลังจากที่วานนี้ตลาดในเอเชียฟื้นตัวขึ้นภายหลังจากที่ตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นออกมาดีกว่าคาด พร้อมมองช่วงนี้ Fund Flow คงจะยังไม่ไหลเข้าตลาดบ้านเรา และยังต้องติดตามปัจจัยการเมืองต่อไปด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,679.90 จุด ลดลง 84.10 จุด (-0.33%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,840.23 จุด ลดลง 19.30 จุด (-0.67%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,702.38 จุด ลดลง 113.91 จุด (-1.46%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 90.47 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 116.21 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 36.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.24 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.38 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.34 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 พ.ค.62) 1,608.11 จุด ลดลง 6.64 จุด (-0.41%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,393.78 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 พ.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 พ.ค.62) ปิดที่ 63.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 พ.ค.62) ที่ 3.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.84 อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค กังวลปัญหาความขัดแย้งการค้า-จับตาตัวเลข GDP Q1/62 ของไทย
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามธุรกิจสหรัฐร่วมงานกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เป็นการชั่วคราว โดยอนุญาตให้มีการอัพเดทซอฟท์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานโทรศัพท์ของหัวเว่ยได้ โดยการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวจะมีผลจนบังคับใช้จนถึงวันที่ 19 ส.ค.นี้
- "สมาคมเช่าซื้อ"เตรียมหารือ "แบงก์ชาติ" หลังพบสินเชื่อเร่งตัวขึ้น หวังช่วยดูแลคุ้มครองผู้ใช้บริการ ลดปัญหาสินเชื่อเงินทอน ขณะ "เครดิตบูโร" ชี้กลุ่มเจนวายก่อหนี้ซื้อรถยนต์มากสุด พบสัดส่วนเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดแตะ 52% ห่วงมาตรการคุมเอื้อมไม่ถึงนอนแบงก์
- 'ศิริ'ทิ้งทวนผลงาน ชี้ปี65 คนไทยจ่ายค่าไฟถูกลง 15 สต./หน่วย จากต้นทุนพลังงานถูกลง เหตุ ปตท.สผ.ชนะประมูล 2 แหล่งก๊าซ-รับซื้อพลังงานทดแทน ด้าน กบง.รับทราบร่างแผน ก๊าซ 20 ปี กำหนดปี'80 ใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้าเพียง 28% นำเข้าแอลเอ็นจีพุ่ง 23 ล้านตัน
- รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 16 พ.ค.62 ยังไม่เห็นชอบผลประมูลการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)ปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตันโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมสั่งให้กฟผ.และปตท.ทำแผนร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาปริมาณการนำเข้า LNG ของกฟผ.กระทบต่อสัญญานำเข้าก๊าซฯ ปตท.5.2 ล้านตัน/ปี จนเกิด take or pay โดยให้ชงเรื่องกลับมาภายใน 2 สัปดาห์
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยภาระหนี้ของครัวเรือนในปัจจุบันอยู่ในระดับสูง ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้เป็นห่วงโดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเร็ว แต่เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะยังคงไม่ออกแนวทางเข้มงวดมากนัก และยังไม่รู้มาตรการจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี หากดำเนินการดูแลเข้มงวดอาจทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบและทำให้ธุรกิจแย่ลง ซึ่งมองว่า ธปท.จะเข้ามาดูแลเรื่องภาระหนี้ต่อรายได้ (ดีเอสอาร์) มากกว่า เนื่องจากสามารถควบคุมการก่อหนี้ได้ทุกประเภทสินเชื่อ
- ดีเดย์ 22 พ.ค. ทอท.เปิดให้เอกชนเข้ายื่นข้อเสนอร้านดิวตี้ฟรี และโครงการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมิ มั่นใจแข่งเดือดเพราะเอกชนไทย -ต่างชาติหลายรายเข้าร่วม ทำให้ ทอท.ได้ผลประโยชน์ มากขึ้น ส่วนสนามบินต่างจังหวัดกำหนด 3 มิ.ย.
- รองประธานกรรมการสภาหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ภาคเอกชนจะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย จะให้แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมมาเสนอข้อมูลและวิเคราะห์ผลกระทบเป็นกลุ่มว่าสินค้าตัวใดได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด เอกชนมีอุปสรรคอะไรบ้างที่ต้องการให้รัฐช่วยเหลือ
*หุ้นเด่นวันนี้
- VL (บมจ.วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเสนอขาย IPO 1.75 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเป้าหมายปีนี้ 2.24 บาท (PE 20x) กำไรปี 2557-61 ชะลอเพราะอยู่ในช่วงขยายกองเรือ แต่กำไรจะเร่งตัวตั้งแต่ปี 2562 คาด 90 ล้านบาท +47% Y-Y จากการขยายกองเรือและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง กำไร Q1/62 ที่ 23 ล้านบาท +64% Y-Y คิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปี จุดเด่นของ VL คืออายุเฉลี่ยของกองเรือต่ำเพียง 16 ปี เทียบกับอุตสาหกรรมที่ 18-20 ปี กลุ่มลูกค้ามีความมั่นคงเช่น ESSO, BCP, Chevron
ทั้งนี้ บริษัทฯให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ทางทะเลทั้งในและต่างประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเรือให้บริการ 12 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวม 35,081 DWT
- TTW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 15 บาท กำไรสุทธิ Q1/62 +9% Q-Q, +10% Y-Y เป็น 738 ล้านบาท จากปริมาณขายน้ำที่เพิ่มขึ้นทั้งของ TTW, PTW, BIE (ผลิตน้ำประปาในนิคมบางปะอิน) และได้ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP (TTW ถือ 25%) เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ความต้องการใช้น้ำประปายังสูงทั้งอุตสาหกรรมและครัวเรือน การขยายตัวของชุมชน และอากาศที่ร้อน กำไร Q4/62 ยิ่งเด่นหลัง CKP เปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี โดยคาดกำไรปีนี้ +6% เป็น 3 พันล้านบาท คาด Dividend Yld. 5%
- OSP (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้าสูงสุด Consensus 34 บาท คาดว่าจะได้ปรับชื่อเข้าคำนวณใน SET50 รอบใหม่ ด้านผลประกอบการ Q1/62 โตดีตามคาด Q2/62 น่าจะยังดีต่อเนื่อง เพราะเป็น High season ของธุรกิจเครื่องดื่ม