นายช่วงชัย นะวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบออนไลน์ปี 62 ที่ระดับ 10% จากปัจจุบันอยู่ราว 5-7% ของอุตสาหกรรม และวางเป้าหมายขึ้นเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์อันดับ 1 ในตลาดจากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 3 โดยบริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาระบบออนไลน์ให้สามารถตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้าได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ผ่านการพัฒนาฟังก์ชั่นในแอพพลิเคชั่น Finansia Hero อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่มองว่าปัจจุบันภาวะตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway จากปัจจัยความไม่แน่นอนภายในประเทศและสงครามการค้า ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนรายย่อยและมีการชะลอการซื้อขายไปมากพอสมควร แต่บริษัทมองเห็นว่าแนวโน้มการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมีแนวทางในการเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบการบริการต่าง ๆ ให้มีศักยภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง และไม่มีแผนการลดต้นทุนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริการลูกค้า
ปัจจุบันบริษัทมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยใกล้เคียงอุตสาหกรรมที่ราว 0.12%-0.15% ตามประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ คาดว่ารายได้จากค่าคอมมิชชั่นปีนี้จะเติบโตได้ราว 1 เท่าตามจำนวนของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แม้ที่ผ่านมาค่าคอมมิชชั่นจากนักลงทุนรายย่อยของทั้งอุตสาหกรรมจะลดลงกว่า 40% จากความผันผวนของภาวะตลาด
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อเพิ่มสัดส่วนปริมาณการซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการและคาดว่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าอย่างมีนัยยะภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งในระยะถัดไปคาดว่าสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติอาจขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50% จากปัจจุบันที่ 30%
อีกทั้งบริษัทมีแนวโน้มในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายในตลาดหุ้นต่างประเทศได้ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการได้จริงภายในปี 63
"ตอนนี้ตลาดทุนไทยเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบหรือการซื้อขายผ่านโรบอทต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นแอพพลิเคชั่นสำหรับรายย่อยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะเห็นการแข่งขันมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นมิติใหม่ที่ดีสำหรับตลาดทุนไทย โดยมองว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นจุดแข่งขันที่สำคัญ" นายช่วงชัย กล่าว
ด้านนางนุสรา รุ่นเจริญ กรรมการบริหาร ฝ่ายธุรกรรมอิเลคทรอนิกส์ส่วนงานการตลาดและการขาย บล. ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาปรับโฉม ‘Finansia HERO’ เพื่อจะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของนักลงทุนที่จะได้ข้อมูลครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Estimate Index ให้นักลงทุนได้เห็นการคาดการณ์ตลาดล่วงหน้า, Hang Seng Index เพื่อรู้ทันทุกความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยกับภาพรวมตลาดฮ่องกง, Future Index ที่แสดงข้อมูล SET50 Index Future ช่วยให้เห็นทิศทางตลาดล่วงหน้าได้ รวมไปถึง Currency และ Investor Type เพื่อการคาดคะเนผลกระทบการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน และทราบข้อมูลการซื้อสุทธิรายวันของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม
รวมไปถึงการเจาะลึกข้อมูลที่โดดเด่นในหุ้นแต่ละตัว พร้อมข้อมูลบริษัท (Company Info) ครบถ้วนทั้งข้อมูลเชิงพื้นฐาน เทคนิค ซึ่งสามารถใช้ติดตามแนวโน้มทิศทางของหุ้นได้ อีกทั้งยังมี Buy/Sell Recommend โดยใช้ข้อมูลของ IAA Consensus แสดงจำนวน Broker ที่ให้การแนะนำ Buy, Sell และ Hold ของหุ้นแต่ละตัวพร้อมราคาเป้าหมาย รวมถึงยังมี NVDR และ %Foreign เพื่อการคาดการณ์การปรับตัวของราคาหุ้นจากกำลังซื้อของต่างชาติ
"เราปรับโฉมการใช้งาน Finansia HERO ครั้งนี้ เพื่อให้เห็นถึงความพร้อมของทีมงานผู้พัฒนาแอพพลิเคชันว่าเราพร้อมรับฟังในทุกปัญหาการใช้งานไม่ว่าจะใช้ช่องทางไหนๆ แล้วนำข้อมูลที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์ทำการศึกษาและปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเพื่อให้ User Experience ออกมาดีที่สุดภายใต้ User Interface ที่ครบครันตอบสนองความต้องการลูกค้ามากที่สุดซึ่งจะทำให้นักลงทุนเกาะติดได้ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มองเห็นทิศทางของภาพรวมตลาด พร้อมสัญญาณซื้อ-ขายที่จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น" นางนุสรา กล่าว
อนึ่ง แอพพลิเคชัน Finansia HERO เป็นแอพพลิเคชันที่ฟินันเซียร่วมพัฒนากับบริษัทหลักทรัพย์อันดับ 1 ในประเทศเกาหลี ‘คิวูม’ เปิดตัวไปในเดือนมีนาคม 2561
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน ผ่านสูตรสำเร็จรูป 14 กลยุทธ์ ที่ใช้สแกนหุ้นได้เรียลไทม์ ตามประเภทของนักลงทุนคือ เก็งกำไร ระยะสั้น กลาง ยาว อีกทั้งนักลงทุนยังสามารถสร้างกลยุทธ์ตามวิธีการเทรดของตนเองได้โดย ใช้ DIY Condition Search และนำหุ้นที่ได้มาทดสอบความแม่นยำในอดีตจาก Backtest และวางกรอบการซื้อขายได้จาก HERO Chart(Volume by price) เพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกค้าในเรื่องของการเลือกหุ้นและจังหวะในการซื้อและขายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยทั้งหมดนี้มาจากความต้องการของลูกค้า ที่จะได้ข้อมูลที่ครบ ง่าย เร็ว ซึ่งสามารถซื้อขายได้ในแอพฯเดียว
นางนุสรา กล่าวว่า ปัจจุบัน(เม.ย.62) มีบัญชีทั้งหมด 75,319 บัญชี แบ่งเป็น ลูกค้าออนไลน์ 62,055 บัญชี คิดเป็น 82% โดยที่เหลือเป็นลูกค้าออฟไลน์ 13,264 บัญชี คิดเป็น 18% ซึ่งนับตั้งแต่การเปิดตัว Finansia HERO มียอดเปิดบัญชีเพิ่มขึ้นถึง 10,019 บัญชี หรือเพิ่มขึ้นกว่า 14% และจากจากปรับเปลี่ยน Finansia HERO ในครั้งนี้ คาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้ายอดเปิดบัญชีจำนวน 20,000 บัญชีภายในปีนี้ และในปัจจุบันนี้มีผู้ดาวน์โหลดใช้งานมากกว่า 1 แสนครั้ง ซึ่งเพิ่มสูงถึง 1,941% เมื่อเทียบกับยอดดาวน์โหลดของเดือนเม.ย.61
สำหรับการเปิดบัญชีของฟินันเซียยังสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที ด้วยระบบ E-KYC : Know Your Customer หรือระบบอนุมัติเปิดบัญชีผ่าน VDO Call ที่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีหุ้นและเทรดทันที ซึ่งวิธีนี้จะทำให้การเปิดบัญชีรวดเร็ว ลดความยุ่งยากของนักลงทุน โดยถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มจำนวนยอดเปิดบัญชีให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
นอกจากนี้ ในปีนี้ได้วางกลยุทธ์ในการพัฒนาและปรับเปลี่ยน Finansia HERO ในเฟสต่อไป เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและนักลงทุน และสอดคล้องกับพฤติกรรมการเทรดหุ้นออนไลน์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนได้มีความรู้ความเข้าใจในการซื้อขายหุ้นและการนำเครื่องมือไปให้เกิดประโยชน์สูงสุด ฟินันเซียจะมีโครงการพัฒนาความรู้ให้นักลงทุน ร่วมกับกูรูเจ้าของเพจดัง ผ่านโครงการแข่งขันเทรดหุ้นจริง โดยจะมีการสอนใช้เครื่องมือและวิธีในการเทรด รวมถึงมุมมองของกูรูด้วย Finansia HERO เพื่อเฟ้นหาฮีโร่ตัวจริงของฟินันเซีย พร้อมรับของรางวัลอีกด้วย โดยเริ่มเปิดตัวโครงการในวันที่ 15 มิถุนายนนี้