นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัทเพื่อปรับเป้าหมายยอดขายพื้นที่เช่าคลังสินค้าและรายได้รวมปี 61/62 (ต.ค. 61 - ก.ย. 62) ใหม่เพิ่มขึ้น จากเดิมที่วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20%
ในส่วนของเป้าหมายยอดขายพื้นที่เช่าคลังสินค้าจะมีการปรับเพิ่มจากเดิม 120,000 ตารางเมตร หลังจากที่ปัจจุบันบริษัทมีการเจรจาเช่าที่พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าแบบสร้างตามความต้องการ (Built – to – Suit) กับลูกค้ารายใหญ่ ขนาดพื้นที่ 50,000 ตารางเมตร จะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ค. ส่งผลให้บริษัทมียอดขายพื้นที่ให้เช่ารวมเป็น 90,000 ตารางเมตร
"จากเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ แต่ด้วยการทำการตลาดและเจรจากับลูกค้าใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้มองว่าในช่วงที่เหลือของงบปีนี้จะมีการเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ใหม่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการปรับเป้าหมายใหม่ให้เหมาะสม ทั้งในงวดปี 61/62 และ 62/63 โดยปัจจุบันเรามีอัตราการใช้พื้นที่ในโรงงานและคลังสินค้าอยู่ที่ประมาณ 79%"นายโสภณ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ก.ย. บริษัทมีแผนที่จะนำสินทรัพย์ อาคารโรงงาน จำนวน 10 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าราว 500 - 600 ล้านบาท ขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เพื่อนำเงินมาลงทุนต่อยอดธุรกิจต่อไปในอนาคต
นายโสภณ กล่าวต่อว่า ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่ร่วมทุนกับทางพันธมิตรสิงคโปร์ ปัจจุบันเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 64 เป็นต้นไป ในระหว่างนี้ทั้งทางบริษัทและพันธมิตรได้เริ่มเดินหน้าขยายตลาดและให้ข้อมูล สร้างความเข้าใจให้กับลูกค้าทั้ง 2 ฝ่ายไปบ้างแล้ว พร้อมกันนี้คาดว่าธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์จะเข้ามาช่วยเพิ่มรายได้ประจำให้กับบริษัทได้เป็น 40% ของรายได้รวมในอนาคต ส่วนที่เหลือจะเป็นรายได้จากการให้เช่าพื้นที่คลัง 60%
สำหรับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ของบมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการดังกล่าว และลำดับต่อไปจะเป็นขั้นตอนของการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะตั้งโต๊ะทำ Tender offer ได้ในช่วงปลายสัปดาห์หน้า (27 - 31 พ.ค.) และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนก.ค. - มิ.ย. และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้บริษัทจะสามารถบันทึกผลประกอบการของ GOLD เข้ามาได้ทันที สะท้อนต่อผลประกอบการที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 62/63 หากการทำ Tender offer ดังกล่าวบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นที่เกิน 90% จะนำ GOLD ออกจากตลาดหลัทรัพย์ฯในลำดับถัดไป