นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ กทพ.วานนี้พิจารณาร่างสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน A ,B ,C ) , ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และ โครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (C +) ที่จะขยายสัมปทานโครงการออกไปอีก 30 ปีตามแนวทางดำเนินการคดีข้อพิพาทระหว่าง กทพ.กับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งมีการปรับแก้ข้อความให้มีความเหมาะสมอีกเล็กน้อยแต่ไม่ใช่สาระสำคัญ โดยให้สรุปรายงานคณะกรรมการอีกครั้งในการประชุมในวันที่ 4 มิ.ย.และขั้นตอนต่อไปคือส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังรับทราบความคืบหน้าการประมูลก่อสร้างโครงการทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม.ในส่วนของงานโยธา จำนวน 4 สัญญา วงเงินรวม 29,154.230 ล้านบาท ซึ่งมีการเปิดซองราคาแล้ว แต่เนื่องจากมีผู้รับเหมาร้องเรียนเข้ามา ดังนั้น จึงมอบหมายให้คณะกรรมการประมูลฯ ชี้แจงข้อร้องเรียนและสรุปข้อมูลทั้งหมดเสนอคณะกรรมการ กทพ.โดยเร็ว โดยเน้นให้ดำเนินการประมูลตามเงื่อนไขและกติกาที่กรมบัญชีกลางกำหนด
นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน รักษาการแทนผู้ว่าฯ กทพ.กล่าวว่า คณะกรรมการ กทพ.นัดประชุมอีกครั้งวันที่ 4 มิ.ย. ดังนั้น คณะกรรมการประมูลฯ จะต้องเร่งดำเนินการชี้แจงข้อร้องเรียนให้เรียบร้อย ซึ่งประเด็นที่มีการร้องเรียนนั้นสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด และไม่มีผลต่อการประมูล เพียงแต่ยังไม่สามารถประกาศผลการประมูลได้ตามที่ตั้งเป้าไว้
ทั้งนี้ กทพ.มีความจำเป็นต้องเร่งสรุปผลประมูลเพื่อเร่งก่อสร้างทางด่วนสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนฯ เนื่องจากต้องเร่งใช้เงินจากกองทุน TFF ซึ่งคาดว่าในวันที่ 4 มิ.ย.นี้จะสามารถประกาศผลประมูลได้
รายงานข่าวแจ้งว่า กทพ.ได้เปิดประมูลแบบนานาชาติ คัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้างทางด่วนพระราม3- ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก และจากการตรวจสอบทุกรายผ่านการประเมินด้านคุณสมบัติและเทคนิค ดังนั้น ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดจะเป็นผู้ชนะประมูล ขณะที่ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ได้ยื่นร้องเรียนเรื่องคณสมบัติเกี่ยวกับผลงานของผู้รับเหมาบางรายที่เข้าประมูล