สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (21 - 24 พฤษภาคม 2562) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 350,528.40 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 87,632.10 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 27% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภท ของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 60% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 210,607 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 119,076 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,785 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB386A (อายุ 19.1 ปี) LB28DA (อายุ 9.6 ปี) และ LB23DA (อายุ 4.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย ในแต่ละรุ่นเท่ากับ 26,530 ล้านบาท 14,305 ล้านบาท และ 12,735 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่น BJC199A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 3,343 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รุ่น LH204B (A+) มูลค่าการซื้อขาย 460 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รุ่น TBEV233A (AA) มูลค่าการ ซื้อขาย 401 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงประมาณ 1-6 bps. ในตราสารระยะยาว ด้านปัจจัยในประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ไตรมาสที่ 1/2562 ขยายตัวร้อยละ 2.8% ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.6% เกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลก และปัญหาจากสงครามการค้าที่ทำให้เศรษฐกิจ ของหลายประเทศชะลอตัวลง และปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 62 เหลือ 3.3-3.8% ด้านปัจจัยต่างประเทศ Markit รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการ เบื้องต้นของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม 62 ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 36 เดือน จากระดับ 53.0 ในเดือนเมษายน 62
สัปดาห์ที่ผ่านมา (21– 24 พ.ค. 62) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 2,969 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือ ไม่เกิน 1 ปี) 2,443 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 6,258 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 846 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (21 - 24 พ.ค. 62) (13 - 17 พ.ค. 62) (%) (1 ม.ค. - 24 พ.ค. 62) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 350,528.40 483,324.53 -27.48% 8,057,973.58 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 87,632.10 96,664.91 -9.34% 83,937.22 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 106.9 106.58 0.30% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.12 104.07 0.05% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (24 พ.ค. 62) 1.67 1.77 1.8 1.89 2.09 2.49 2.79 3.27 สัปดาห์ก่อนหน้า (17 พ.ค. 62) 1.65 1.76 1.8 1.88 2.1 2.54 2.85 3.28 เปลี่ยนแปลง (basis point) 2 1 0 1 -1 -5 -6 -1