นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการเงิน บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ไตรมาส 2/62 คาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าไตรมาส 1/62 เนื่องจากจะมีการโครงการคอนโดมิเนียม The ESSE Asoke เข้ามามากขึ้นกว่าไตรมาสแรก โดยโครงการ The ESSE Asoke มูลค่า 4.92 พันล้านบาท ขณะนี้ทำยอดขายไปได้แล้ว 83%
อีกทั้งในช่วงไตรมาส 2/62 จะเริ่มเปิดบริการโรงแรมและพื้นที่พาณิชย์ในโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ บางส่วน ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาเสริมอีก และยังมีรายได้จากอาคารสำนักงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้รายได้ยังคงเห็นการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 จะเห็นการเติบโตของรายได้ที่โดดเด่นมากขึ้นอีก เพราะจะเริ่มมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม The ESSE at Sigha Complex มูลค่า 4.34 พันล้านบาทเข้ามา ซึ่งขณะนี้มียอดขายแล้ว 91% พร้อมกับเริ่มโอนโครงการบ้านเดี่ยว Santiburi The Residences ที่มี 26 ยูนิต มูลค่ารวม 5.38 พันล้านบาท
พร้อมกันนั้นจะเริ่มเปิดให้บริการโรงแรมและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนห้องพักของโรงแรมในเครือของบริษัททั้งหมดเพิ่มเป็นกว่า 4,600 ห้อง จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 4,200 ห้อง ประกอบกับอัตราการเช่าของพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงานของโครงการ Sigha Complex จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 69% หลังจากโครงการ The ESSE at Sigha Complex เริ่มโอน และทางเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วเสร็จในครึ่งบปีหลัง
"ปีนี้ก็ยังมีโอกาสลุ้นรายได้รวมในปีนี้จะแตะ 2 หมื่นล้านบาทได้ ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 63 เพราะแผนงานต่าง ๆ ของบริษัทเดินหน้าไปได้เป็นอย่างดี แต่ในส่วนกำไรยังต้องลุ้นเหมือนกันว่าจะยังเห็นการเติบโตขึ้นหรือไม่ เพราะปีนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการเปิดโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ ที่อยุ่ในระดับสูง ซึ่งหากนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้ออกไป กำไรของบริษัทก็ยังเติบโตได้อย่างโดดเด่น"นายชัยรัตน์ กล่าว
ส่วนแผนการนำ บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ยังคงเป็นไปตามเดิมที่จะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 40% ของทุนชำระแล้วของ SHR ภายหลังการเพิ่มทุน โดยจะเสนอขายหุ้นไม่เกิน 1,437.45 ล้านหุ้น ซึ่ง SHR ยื่นแบบเสนอขายหุ้น(ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิมที่ SHRSG จะนำออกมาเสนอขาย โดยมีธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารกรุงไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/62
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปใช้ลงทุนในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโครงการ CROSSROADS เฟส 1 โครงการปรับปรุงและพัฒนาโรงแรม Outrigger โครงการปรับปรุงพัฒนาโรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท ใช้เป็นเงินทุนสำหรับขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนำเงินไปชำระคืนเงินกู้จาก สิงห์ เอสเตท และเงินกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อทำให้หนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า โดยปัจจุบันมีหนี้สินทั้งหมด 1.2 หมื่นล้านบาท และเงินส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ