ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 150 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 370 จุด
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 158.2 จุด สู่ระดับ 5,868.0 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,852.8-6,026.2 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.55 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) ที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ในเดือนม.ค. ร่วงลงสู่ระดับ 41.9 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงต่ำกว่าระดับ 50 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2546 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
หุ้นกลุ่มค้าปลีกถูกแรงขายทุบร่วงลง โดยหุ้นเทเลอร์ วิมพีย์ ร่วงลง 16 เพนซ์ ปิดที่ 184 เพนซ์ และหุ้นเพอร์ซิมสันร่วงลง 58 เพนซ์ ปิดที่ 732 เพนซ์
ส่วนหุ้นบริติช แอร์เวย์ถูกเทขายเช่นกัน โดยราคาหุ้นร่วงลง 19 เพนซ์ ปิดที่ 293 เพนซ์ หลังจากทางสายการบินเปิดเผยว่าจำนวนผู้โดยสารในเดือนม.ค.ปรับตัวลดลง 0.8% แตะระดับ 2.33 ล้านค้น
หุ้นแฮมเมอร์สันร่วงลง 78 เพนซ์ ปิดที่ 1,067 เพนซ์ หุ้นบริติช แลนด์ ร่วงลง 67 เพนซ์ ปิดที่ 1,547 เพนซ์ หุ้นบริกซ์ตัน ปรับตัวลง 15 เพนซ์ ปิดที่ 333 เพนซ์ และหุ้นเซโกรร่วงลง 24 เพนซ์ ปิดที่ 501 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--