นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจอาหารในกลุ่มบมจ.ดุสิตธานี (DTC) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายสร้างรายได้จากธุรกิจอาหารรวม 1,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี (ปี 62-64) และในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจอาหารไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท ตามแผนการสร้างการเติบโตจาก 2 ส่วน ได้แก่ organic ซึ่งเป็นการออกและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอง และ non-organic คือ การเข้าไปลงทุนในบริษัทต่าง ๆ โดยจะเน้นลงทุนในธุรกิจที่สามารถเชื่อมต่อ สร้างคุณค่า และยกระดับเพิ่มมาตรฐานให้กับธุรกิจที่มีอยู่เดิม
สำหรับรายได้ธุรกิจอาหารในปีนี้ จะมาจากการเข้าไปลงทุนในบริษัทต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา ได้เข้าไปถือหุ้น 26% ในบริษัท เอ็นอาร์อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (NRF) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 25 ปี ผลิตสินค้าส่งออก 25 ประเทศทั่วโลก ให้กับแบรนด์ต่างๆ กว่า 50 แบรนด์ และเข้าลงทุนในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (ECC) ผู้นำให้บริการผลิตอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยกว่า 30 แห่ง โดยเข้าไปถือหุ้น 51% และวางแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 19% รวมเป็นถือหุ้น 70% ในต้นปี 2563
ส่วนการออกและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เองนั้น ดุสิต ฟู้ดส์ ได้วางแผนสร้างแบรนด์ "ของไทย" ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง ที่เน้นวางจำหน่ายในต่างประเทศเป็นหลัก โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในช่วงแรก จะเป็นภัตตาคารที่มีระดับ (White Table Cloth) ก่อน จึงขยายไปร้านอาหารทั่วไป (Food Services) เป็นต้น เบื้องต้นนี้มีการผลิตออกมา 4 เมนู ได้แก่ แกงเขียวหวาน แกงมัสมัน แกงกะหรี่ และก๋วยเตี๋ยวแขก ซึ่งแต่ละเมนูจะมี 2 รูปแบบคือ พร้อมปรุง (Simmer Sauce, Ready to Cook) และแบบเข้มข้น (Concentrate Paste) ที่สามารถนำไปเพิ่มกะทิและน้ำตามสูตรที่ต้องการ หลังจากนั้น จะขยายเป็น 8 เมนู ได้แก่ ซอสผัดไทยและซอสปรุงรสต่าง ๆ เช่น ซอสพริกศรีราชา น้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม ก่อนจะขยับเป็น 20 เมนู ในอีก 2 ปีข้างหน้า
"เราวางสัดส่วนการทำตลาดแบรนด์ "ของไทย" ด้วยการส่งออกไปขายในต่างประเทศ 90% ขายในประเทศ 10% ซึ่งในตลาดต่างประเทศนั้น จะโฟกัสไปที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลัก เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่และรู้จักอาหารไทยดีอยู่แล้ว โดยจะเจาะตลาดทั้งออนไลน์กับออฟไลน์ ทำตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นพ่อครัวและผู้ประกอบกิจการอาหาร หรือการบริการทำอาหารฟู้ดเซอร์วิส โดยจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าล็อตแรกที่สหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายนนี้ ก่อนจะขยายไปยังยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส"นายเจตน์ กล่าว
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DTC กล่าวว่า ปีนี้จึงเป็นปีแรกที่ "ดุสิต ฟู้ดส์" ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน THAIFEX World of Food Asia 2019 ระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งนับเป็นงานแสดงสินค้าอาหารที่มีผู้คนที่เกี่ยวข้องในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของดุสิต ฟู้ดส์ คือ Bring Asia to the World หมายถึงการนำอาหารไทยและอาหารในภูมิภาคเอเชียออกสู่ตลาด
"เราตั้งใจวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์จากดุสิต ฟู้ดส์ให้เป็น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Healthy) ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ (Natural) ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารเคมี (Organic) และผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนเกษตรกรและชุมชนพื้นถิ่น (Supporting farmers and local communities) ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เรามั่นใจว่า การขยายไปสู่ธุรกิจอาหารอย่างเต็มรูปแบบของดุสิตธานี จะสร้างโอกาสในการลงทุน การสร้างผลตอบแทน และสร้างความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มดุสิตธานีอย่างยั่งยืนในอนาคต"นางศุภจี กล่าว