นางอรอนงค์ วิชชุชาญ ผูอำนวยการฝ่ายบัญชี บมจ.ไทยวา (TWPC) กล่าวว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 น่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีก่อนประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหัวมันสำปะหลัง แต่ในปีนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ปัจจุบันบริษัทมีสต็อกรอขายอยู่ที่ 52,000 ตัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีสต็อกรอขายอยู่ที่ 31,000 ตัน ประกอบกับจะมีการบันทึกผลการดำเนินงานของ บริษัท สำปะหลังพัฒนา จำกัด หรือ TDC ผู้ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังดัดแปลง เข้ามาเป็นครั้งแรก ซึ่ง TWPC มีสัดส่วนการถือหุ้น 100% รวมถึงรับรู้รายได้ของบริษัท แม่สอด สตาร์ช เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มองราคามันสำปะหลังในช่วงที่เหลือของปีน่าจะอยู่ที่ 2-2.30 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 3 บาท/กิโลกรัม ทำให้ส่งผลดีต่อต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาขายแป้งมันสำปะหลังน่าจะอยู่ที่ 430-450 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากไตรมาสแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 455 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้ทั้งปีอัตรากำไรขั้นต้นจะเติบโตมากกว่า 20% จากไตรมาสแรกอยู่ที่ 20.4% แล้ว ส่วนอัตรากำไรสุทธิ คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 5% จากไตรมาสแรกอยู่ที่ 4.76%
สำหรับแผนการลงทุนในช่วง 2 ปี (62-63) บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 2,000 ล้านบาท โดยหลักจะใช้ในการขยายกำลังการผลิต โรงงานแป้งมันสำปะหลัง ที่กัมพูชา เฟส 2 กำลังการผลิต 30,000 ตัน/ปี และขยายกำลังการผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว ในประเทศเวียดนาม เพิ่มเป็น 6,000 ตัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 ตัน คาดว่าทั้งสองโรงงานจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในปี 64 ขณะเดียวกันก็จะใช้รองรับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกัน และก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีกจำนวน 2 แห่ง ที่จ.กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซียเพิ่มเติม โดยคาดในไตรมาส 4/62 จะเข้าไปตั้งสำนักงานขายในประเทศดังกล่าว โดยมองเป็นประเทศที่ค่อนข้างใหญ่รองจีน จากปัจจุบันที่มีสำนักงานขายในประเทศจีนแล้ว ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อยอดขายในต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และผลักดันให้บริษัทก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามนอกจากการเข้าไปตั้งสำนักงานขายในสองประเทศดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันบริษัทฯ ยังมีการส่งออกสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 29 ประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้จากการส่งออกจะเติบโตมากกว่า 10%
นางอรอนงค์ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทสามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตใหม่ได้ในปี 64 น่าจะส่งผลทำให้รายได้ในปีนั้นเติบโตมากกว่า 10% ได้ จากปีนี้ยังคงเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 6-8% หรือเติบโตเป็น 10,000 ล้านบาท เป็นไปตามความต้องการแป้งสำปะหลังที่มีทิศทางดีขึ้น