นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาส 2/62 คาดว่าจะเติบโตมากกว่าไตรมาส 1/62 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากลูกค้าค่ายรถยนต์รายใหญ่ที่มีโรงงานผลิตในประเทศมีคำสั่งผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อเตรียมใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3/62 เข้ามา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้ที่มาจากการร่วมทุนกับบริษัท วินฟาสท์ เทรดดิ้ง แอนด์ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัทวินกรุ๊ป ประเทศเวียดนาม ในการตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนโลหะปั๊มขึ้นรูปและประกอบตัวถังรถยนต์ที่ VINFAST Supplier Park เมืองไฮฟอง เพื่อผลิตตัวถังรถยนต์ (Body in White) โดยในไตรมาส 1/62 ทำรายได้เข้ามาแล้ว 200 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยเข้ามาหนุนรายได้ของบริษัทให้เติบโตขึ้น
ขณะที่ผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนนั้น บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว เพราะลูกค้าค่ายรถยนต์ต่างๆ ยังคงสั่งออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการชะลอออกไปแต่อย่างใด อีกทั้งโรงงานผลิตในประเทศจีนที่บริษัทเข้าไปลงทุนนั้นไม่ได้เป็นการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศอื่น แต่เป็นการผลิตเพื่อส่งให้กับค่ายรถยนต์ที่มีโรงงานในประเทศจีนเท่านั้น ดังนั้น บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ 10% จากปีก่อน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 64% ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ 36% และ ธุรกิจ Tot Connectivity 1% โดยปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนใน 3 ประเทศหลัก ได้แก่ ประเทศไทย ซึ่งมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนทั้งหมด 4 แห่ง มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 73% ของรายได้รวม ประเทศมาเลเซีย ซึ่งบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 23% และประเทศจีน เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วน มีสัดส่วนรายได้ 4% นอกจากนี้ บริษัทยังมีการลงทุนร่วมกับพันธมิตรใน โปรตุเกส สหรัฐฯ อินเดีย และเวียดนาม
ด้านงบลงทุนในปี 62 จะใช้สำหรับรองรับการขยายธุรกิจต่อเนื่อง ทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการร่วมทุนกับพันธมิตร โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 0.8 เท่า และในช่วงไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมา บริษัทมีการออกหุ้นกู้ไปแล้ว จำนวน 500 ล้านบาทเพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอน