หุ้น BJC ปรับตัวลง 3.12% หรือ 1.50 บาท มา ที่ 46.50 บาท เมื่อเวลา 10.06 น. จากราคาเปิด 46.75 ปรับตัวต่ำสุดที่ 46.25 บาท ราคาสูงสุดที่ 46.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 162.41 ล้านบาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) คาดธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระป๋องยังคงชะลอตัวในไตรมาส 2/62 เนื่องจากอยู่ระหว่างเปลี่ยนลูกค้าใหม่มาทดแทนคาราบาว (สัดส่วน 10-15% ของยอดขายกระป๋อง หรือคิดเป็น 1% ของยอดขายรวม BJC) โดยได้ลูกค้าใหม่แล้ว 1 รายตั้งแต่ไตรมาส 1/62 และจะมีลูกค้าใหม่ 2 รายในช่วงครึ่งหลังปี 62 คาดว่าจะทดแทนยอดขายกระป๋องให้กับคาราบาวได้
ขณะที่ธุรกิจขวดแก้วในไตรมาส 2/62 มีแนวโน้มลดลง QoQ เนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่น แต่ฟื้นตัว YoY เนื่องจากโรงงานขวดแก้วที่มาเลเซียกลับมาผลิตได้ตามปกติหลังจากการผลิตขัดข้องในปีก่อน
และคาดกำไรปกติในไตรมาส 2/62 ชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/62 แต่เติบโตจากไตรมาส 2/61 จากกลุ่มบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วที่ฟื้นตัวจากการที่โรงงานมาเลเซียกลับมาผลิต และการขยายกำลังการผลิตของโรงงานในไทย รวมทั้งได้ผลประโยชน์ทางภาษีของโรงงานใหม่ ขณะที่ยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิของ BJC จะถูกกระทบจากการบันทึกประมาณการหนี้สินผลประโยชน์พนักงาน 300 ล้านบาท (สุทธิหลังหักภาษีเท่ากับ 240 ล้านบาท)
ส่วนผลประกอบการของ BigC คาดเติบโตดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 62 เช่นกันจากการขยายสาขามากขึ้น อัตรากำไรเพิ่มขึ้นจากการลดสัดส่วนยอดขาย B2B ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำ อีกทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายปิดสาขามินิบิ๊กซีมากเหมือนในไตรมาส 1/62 แนะนำ ซื้อ BJC ราคาเป้าหมาย (DCF) 65 บาท