นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็มวิชั่น (MVP) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 จะเติบโตเป็น 3 เท่าตัวจากไตรมาสแรก และคาดจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการจัดงาน Thailand Mobile Expo 2019 อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.-2 มิ.ย.62
การจัดงานครั้งนี้ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากพันธมิตรค่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเข้าร่วมมากกว่า 40 แบรนด์ เช่น Huawei, Samsung, Vivo, Motorola, Honor, Xiaomi และพันธมิตรทางด้านไอที Jaymart, TG Fone, Banana IT, JIB, Studio 7, IT City, Synnex, RTB ร่วมด้วยโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ทั้ง 3 ค่าย AIS, DTAC, True Move H และบริษัทคู่ค้า เป็นต้น ซึ่งยังคงตอกย้ำความเป็น "Mobile Related Expo" ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างสามรถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้ทั้งหมด
ขณะที่งานครั้งนี้ได้มีการขยายพื้นที่จัดงานเพิ่มอีก 30% และบริษัทคาดว่าจะมียอดผู้เข้าชมงานมากกว่าครั้งก่อนๆ เนื่องจากมีการจัด 3 งานใหญ่พร้อมกัน คาดว่าจะมีผู้เข้าชมไม่น้อยกว่า 7 แสนคน ด้วยกระแสที่กำลังมาแรงของการแข่งกีฬา eSports รวมไปถึงสมาร์ทโฟนเกมมิ่ง, โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง, อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์, และไอเท็มในเกมต่างๆ และด้วยโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่จะช่วยกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟนให้คึกคัก และยังมีกำลังซื้อจากกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจสินค้า Gadget อุปกรณ์เสริมและอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมยอดผู้เข้าชมงาน และยอดเงินสะพัดให้เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์เอาไว้
อีกทั้งในปีนี้บริษัทยังมีการจัดงานท่องเที่ยวเชิงกีฬาด้วย โดยจะมีงานดังกล่าวทั้งสิ้น 12 งาน โดยคาดหวังสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการจัดงานท่องเที่ยวเชิงกีฬาจะเติบโตมากกว่า 50% ในปีนี้ และที่เหลือจะมาจากธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าโทรศัพท์มือถือ
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมเพิ่มรถบ้านเป็น 150 คันในปีนี้ จากปัจจุบัน 130 คัน โดยมีแผนนำรถบ้านไปปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้ในช่วงที่รถว่าง ซึ่งคิดเป็นรายได้ค่าเช่าเฉลี่ยคันละ 2,000-4,000 บาท/คัน/วัน หรือ 20,000-30,000 บาท/คัน/เดือน โดยปัจจุบันมีอัตราการใช้รถในปัจจุบันอยู่ที่ 90% ส่วนอีก 10% จะเหลือไว้เพื่อสำรอง วางงบลงทุนไว้ที่ 6 แสนบาท/คัน ซึ่งจะใช้เงินที่เหลือจากการระดมทุน IPO ที่ปัจจุบันเหลืออยู่ที่ 50 ล้านบาท
นายโอภาส กล่าวว่า บริษัทคาดว่าในปีนี้บริษัทน่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40 ล้านบาทจากปีก่อนที่ขาดทุน 52.09 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ในปีนี้เติบโตตามธุรกิจการจัดงานต่างๆ และการปล่อยเช่ารถบ้านมากขึ้น โดยหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ บริษัทก็มีนโยบายที่จะกลับมาจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นทันที
"ปีนี้เราจะมุ่งเน้นการทำกำไรเป็นหลัก เพื่อจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรก โดยเราจะเดินหน้าจัดงานท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างต่อเนื่อง จากยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีอยู่ และการปล่อยเช่ารถบ้าน หลังจากมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก"นายโอภาส กล่าว
นายโอภาส กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าคดีความฟ้องร้องลูกค้าในโครงการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ศาลได้นัดไกล่เกลี่ยไปแล้ว คาดว่าจะจบได้ภายในปีนี้ และหากบริษัทชนะคดีดังกล่าว จะทำให้มีการบันทึกกลับค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองฯ ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 104 ล้านบาทเข้ามาเป็นกำไรพิเศษในปีนี้ ซึ่งบริษัทก็มีความตั้งใจที่จะนำเงินส่วนหนึ่งมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ