นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ธนาคารคาดว่าสินเชื่อเอสเอ็มอีในครึ่งแรกของปี 62 จะเติบโต 3-4% แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/62 ยังหดตัวอยู่เล็กน้อย แต่แนวโน้มในไตรมาส 2/62 เริ่มเห็นการกลับมาฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการนำเข้าและส่งออก หรือสินเชื่อประเภท Trade Finance ที่มีการเติบโตดีขึ้นมาก ซึ่งธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อกับลูกค้าในกลุ่มนี้เฉลี่ย 1 พันล้านบาท/เดือน ซึ่งจะปัจจัยหนุนให้สินเชื่อเอสเอ็มอีในครึ่งปีแรกเติบโตได้ตามที่ธนาคารคาดไว้
ขณะเดียวกันธนาคารมองว่าความต้องการใช้สินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น หลังจากมีความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลและการเดินหน้านโยบายต่างๆ ประกอบกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีความต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้กับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีโอกาสได้รับงานจากผู้ประกอบการรายใหญ่ และกลุ่มวัสดุก่อสร้างก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย อีกทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่จะออกมาจะช่วยหนุนกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าส่งและค้างปลีกให้ดีขึ้น รวมไปถึงกลุ่มอาหารด้วย
ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงกระตุ้นให้ความต้องการใช้สินเชื่อมากขึ้นในครึ่งปีหลัง และส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของสินเชื่อเอสเอ็มอีเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ในปีนี้ 1 แสนล้านบาท และส่งผลให้ยอดสินเชื่อคงค้างของสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารในสิ้นปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% หรือมาอยู่ที่ 3.78 แสนล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่ 3.41 แสนล้านบาท
โดยส่วนแบ่งตลาดของสินเชื่อเอสเอ็มอีของ SCB ในปัจจุบันอยู่อันดับ 3 หรือมีส่วนแบ่งตลาดที่ 10% และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 12-13% ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีทั้งหมด 500,000 ราย ซึ่งลูกค้าเอสเอ็มอีที่ไช้บริการสินเชื่อทั้งหมด 75,000 ราย ซึ่งมียอดขายไม่เกิน 500 ล้านบาท/ปี
นอกจากนี้ ธนาคารยังคงผลักดันให้ลูกค้าเอสเอ็มอีมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย และสนับสนุนการทำธุรกิจแบบ B2C ให้ขยายตัวมากขึ้น โดยผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งแพลตฟอร์มแบบ B2C ในปัจจุบันมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 20% ซึ่งมีศักยภาพมากและการเปิดให้บริการในหลากหลายประเทศ
ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมกับ amazon.com ในการช่วยสนับสนุนลูกค้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในแพลตฟอร์มระดับโลก ทำให้ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น และตั้งเป้าวงเงินสินเชื่อรวมในการสนับสนุนการขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่าน amazon.com ให้ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารรวม 4 พันล้านบาท จากลูกค้าทั้งหมดที่สนใจเข้ามาใช้บริการ 2,000 ราย
ด้านสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าเอสเอ็มอีในปีนี้จะควบคุมให้ไม่เกิน 8% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.8% โดยที่แนวโน้มคุณภาพสินเชื่อดีมากขึ้น และไม่ค่อยเห็นการเกิดหนี้เสียใหม่ๆของลูกค้าเอสเอ็มอี แต่อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงให้คำปรึกษาและช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารอย่างต่อเนื่องหากลูกค้าประสบปัญหา และหากลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ธนาคารก็จะมีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกค้า และช่วยพลิกฟื้นธุรกิจลูกค้าให้กลับมา